“ตาหมากรุก” ทำผลงานได้ตามเป้าหลังเชือด สกอตแลนด์ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนนแถมผลอีกคู่เป็นใจทำให้ประตูได้-เสียดีกว่าแซง เช็ก ตีตั๋วรอบน็อคเอาท์เป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 กลุ่ม ดี นัดสุดท้าย คืนวันอังคารที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม ดี คืนวันอังคารที่ 22 มิถุนายน ที่สนาม แฮมพ์เดน พาร์ค เมือง เซนต์ กลาสโกว์ ประเทศ สกอตแลนด์ เป็นการพบกันระหว่าง โครเอเชีย ดวล สกอตแลนด์ โดยทั้งสองทีมต่างมีเพียง 1 คะแนน ต้องคว้า 3 แต้มในเกมนี้เพื่อความหวังในการลุ้นเข้ารอบ
เปิดฉากครึ่งแรกเกมเปิดแลกกันสนุก สกอตแลนด์ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางขวาของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนเป็น โครเอเชีย แลกหมัดคืนจากจังหวะสอดมาโขกของ บรูโน่ เพ็ตโควิช แต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ ต่อมานาทีที่ 5 สกอตแลนด์ หวิดทะยานออกนำจากบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย จอห์น แม็คกินน์ พาบอลตัดเข้าในก่อนหยอดเข้าเขตโทษข้ามหัว โดมาโกจ์ วิด้า เกือบถึง เช อดัมส์ เสียดายแรงเลยไปถึง โยซิป ยูราโนวิช ชกทิ้งออกหลัง นาทีที่ 10 คราวนี้เป็น ลินดอน ไดค์ส ถอยลงมาโขกบอลตั้งให้ เช อดัมส์ ลากขึ้นมาตั้งป้อมปั่นด้วยขวาแฉลบหัวเข่า โดมาโกจ์ วิด้า กระดอนพื้นหลุดออกหลังเสียดาย ผู้ตัดสิน มองไม่ทันให้เป็นตั้งเตะของ โครเอเชีย แต่แล้วนาทีที่ 16 โครเอเชีย ทะยานออกนำ 1-0 จากบอลทางขวาของ โยซิป ยูราโนวิช ครอสบอลเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง อิวาน เปริซิช โขกตั้งเข้าในให้ นิโคล่า วลาซิช พักอกก่อนล้มตัวตวัดด้วยซ้ายเบียดโคนเสาแรกงามหยด นาทีที่ 21 “ตาหมากรุก” เร่งเครื่องไม่หยุดจากจังหวะหน้าเขตโทษของ ลูก้า โมดริช ขยับขึ้นมาตั้งป้อมตะบันด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาบอลส่ายเกือบเสียบใต้คานติดปลายมือ เดวิด มาร์แชล ผวาปัดทิ้งนิดเดียว 3 นาทีต่อมา สกอตแลนด์ พลาดโอกาสทอง จอห์น แม็คกินน์ สอดขึ้นมาทางขวาโขกบอลเข้าเขตโทษเลยหัว ลินดอน ไดค์ส ผ่านหน้าประตูหลุดมาเสาไกลถึง เช อดัมส์ ทิ้งตัวเกี่ยวกลับมาจากจังหวะต่อเนื่อง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขยันไปตามฉกคืนได้ช่องตบเข้าในแนวรับ โครเอเชีย ลื่นปล่อยบอลเลยมาถึง ลินดอน ไดค์ส ตั้งย้อนมาให้ จอห์น แม็คกินน์ สอดมาแปด้วยซ้ายกระดอนพื้นติดเซฟ โดมินิค ลิวาโควิช ตามมาตะครุปไว้ได้ทัน ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที “ตาหมากรุก” ยังคงทำได้ดีกว่าจากจังหวะยิงไกล โยซิป ยูราโนวิช สอดมารับบอลก่อนอัดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไป จากจังหวะต่อเนื่อง อิวาน เปริซิช แหวกขึ้นมาทางซ้ายก่อนตัดเข้าในหวดด้วยขวาข้ามคานเหมือนเดิม นาทีที่ 42 กลายเป็น สกอตแลนด์ ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะทางซ้ายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สอดมาเก็บบอลก่อนตักเข้าเขตโทษแนวรับ โครเอเชีย สกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ คัลลัม แม็คเกรเกอร์ สอดมาซัดหน้ากรอบ 18 หลากระดอนพื้นซุกหน้าต่างเสาไกลไม่เหลือก่อนจะหมดเวลาครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 โครเอเชีย พลาดโอกาสทองจากบอลจ่ายสุดสวยของ นิโคล่า วลาซิช ปาดเข้าเขตโทษให้ ยอสโก้ กวาร์ดิออล เอาชนะกับดักล้ำหน้าหลุดเดี่ยวขึ้นมาทิ่มไปติดเซฟ เดวิด มาร์แชล ออกมาปิดมุมช่วย สกอตแลนด์ เอาไว้ได้ 5 นาทีต่อมาจากบอลยาวของ ลูก้า โมดริช ยกออกซ้ายให้ อิวาน เปริซิช สอดขึ้นมาพาเข้าเขตโทษก่อนดีดด้วยขวาไปตรงตัว เดวิด มาร์แชล ปัดทิ้งออกมาหวุดหวิดก่อนมีธงล้ำหน้าจากผู้ช่วย ผู้ตัดสิน ยกตามขึ้นมา นาทีที่ 58 สกอตแลนด์ ออกหมัดบ้างจากจังหวะทางซ้าย สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง วางบอลเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลให้ จอห์น แม็คกินน์ โฉบตัดหน้า ยอสโก้ กวาร์ดิออล ชาร์จไม่ถึง 5 หลาปลิ้นหลังเท้าออกหลังเหลือเชื่อ ต่อมานาทีที่ 62 โครเอเชีย มาได้ประตูขยับเป็น 2-1 จากจังหวะประสานงานสุดสวย มาเตโอ โควาซิช สอดมารับบอลหน้าเขตโทษก่อนจ่ายตั้งให้ ลูก้า โมดริช วิ่งมาดีดไซค์ก้อยด้วยขวาผ่านบล็อค สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง พุ่งผ่านมือ เดวิด มาร์แชล ซุกก้นตาข่าย 20 นาทีสุดท้าย สกอตแลนด์ ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับ โครเอเชีย ได้ต้องเปลี่ยนมาเข้าทำจากจังหวะยิงไกลของ คัลลัม แม็คเกรเกอร์ และ ไรอัน เฟรเซอร์ แต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ นาทีที่ 77 “ตาหมากรุก” หนีห่างเป็น 3-1 จนได้จากลูกเตะมุมทางซ้าย ลูก้า โมดริช ปั่นมาเสาแรกให้ อิวาน เปริซิช ขยับหนี คีแรน เทียร์นี่ย์ โฉบมาโขกเช็ดบอลผ่านหน้าประตูชนโคนเสาสองเปลี่ยนทางตุงตาข่าย 10 นาทีสุดท้าย สกอตแลนด์ พยายามหาประตูปลุกความหวัง ไรอัน เฟรเซอร์ แหวกขึ้นมาทางซ้ายก่อนซัดแฉลบบล็อคแนวรับ สกอตแลนด์ เด้งมาเสาไกลถึง เช อดัมส์ ทิ้งตัวชาร์จไปติดขา โดมินิค ลิวาโควิช เซฟไว้ได้ หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม โครเอเชีย ชนะ สกอตแลนด์ 3-1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง
โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, โดมาโกจ์ วิด้า, ยอสโก้ กวาร์ดิออล (บอร์น่า บาริซิช น.71), มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช, นิโคล่า วลาซิช (ลูก้า อิวานูเซ็ค น.76), ลูก้า โมดริช, อิวาน เปริซิช (อันเต้ เรบิช น.81), บรูโน่ เพ็ตโควิช (อังเดรจ์ ครามาริช น.70)
สกอตแลนด์ : เดวิด มาร์แชล, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, แกรนท์ แฮนลี่ย์ (สกอตต์ แม็คเคนน่า น.33), คีแรน เทียร์นี่ย์, สตีเฟ่น โอดอนเนลล์ (นาธาน แพทเทอร์สัน น.84), สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง (ไรอัน เฟรเซอร์ น.70), คัลลัม แม็คเกรเกอร์, จอห์น แม็คกินน์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ลินดอน ไดค์ส, เช อดัมส์ (เควิน นิสเบ็ท น.84)