โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์มเก่ง ซัดแฮตทริก พลิกแซง สเปอร์ส ไปแบบสุดมันส์

การแข่งขันในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  เปิดบ้านพบกับ สเปอร์ส เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-2-1

เกมเริ่มมาได้ 9 นาที “ปีศาจแดง” พลาดได้จุดโทษ

จากจังหวะทางฝั่งซ้ายของ เจดอน ซานโช่ พาบอลแหวกขึ้นมาจ่ายเข้าเขตโทษไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตวัดตามน้ำบอลไปติดมือ เอริก ดายเออร์ ผู้ตัดสิน ปล่อยเกมดำเนินต่อและไม่มีสัญณานจากห้อง วีเออาร์

นาทีที่ 13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว 

จากการประสานงานสุดสวยของ เฟร็ด ดีดเร็วชิ่งไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตั้งป้อมกดด้วยขวาระยะร่วม 30 หลา บอลพุ่งส่ายผ่านมือ อูโก้ โยริส โค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

นาทีที่ 16 เจ้าบ้าน ได้ใจเร่งเครื่องต่อเนื่อง

จากจังหวะของ เฟร็ด ขยับมาเชื่อมบอลก่อนไหลต่อให้ ปอล ป็อกบา พลิกหนี โรดริโก้ เบนตานกูร์ เอียงได้ช่องปั่นด้วยขวาหน้ากรอบบอลกระดอนพื้นถากเสาไกลออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 20 สเปอร์ส ได้ตอบโต้กลับมาบ้าง

จากจังหวะของ ซน ฮึง-มิน จ่ายบอลชิ่งเข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายบอลถึง เบน เดวิส สอดมายิงยัดเสาแรก ดาบิด เด เคอา ปิดมุมไม่หมดทำให้บอลพุ่งเข้าประตูไป ผู้ช่วยผู้ตัดสินจับเป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน

นาทีที่ 26 ปีศาจแดงเกือบโดนไล่เจ๊า

จากลูกเตะมุมทางซ้าย ซน ฮึง-มิน เปิดบอลโค้งมาเสาแรกถึง โรดริโก้ เบนตานกูร์ โฉบมาโหม่งเปลี่ยนทางย้อยไปเสาไกลถึง เอริก ดายเออร์ ขึ้นโหม่งซ้ำเต็ม ๆ แต่ก็ยังไม่ผ่าน ดีโอโก้ ดาโลต์ ยืนคุมเส้นสกัดออกมาได้ทันเวลา

นาทีที่ 34 “ไก่เดือยทอง” มาตามตีเสมอจนได้

จากจังหวะของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ พาบอลแหวกขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษบอลไปติดมือ อเล็กซ์ เตลลิส ผู้ตัดสิน ชี้เป็นจุดโทษทันทีก่อนรอยืนยันจาก วีเออาร์ และเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้สที่สังหารเข้าไปไม่พลาด สเปอร์ส ไล่มา 1-1

นาทีที่ 38 “ปีศาจแดง” ไม่ยอมทวงประตูคืนทันควัน

จากบอลกลางสนามของ เนมานย่า มาติช เปิดบอลออกขวาให้ เจดอน ซานโช่ หลุดขึ้นหน้าเข้าเขตโทษก่อนไหลเข้าในถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามมาชาร์จเข้าไปไม่พลาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกแซง 2-1

จบครึ่งเวลาแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ สเปอร์ส ไปได้ก่อน 2-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้เฉียบคมมากกว่า ทำให้กุมความได้เปรียบไปก่อนในช่วงครึ่งแรก ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อใน ช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 61 สเปอร์ส น่าจะได้ประตูไล่ตีเสมอสุด ๆ

จากจังหวะของ เจดอน ซานโช่ ทำเสียบอลกลางสนาม ก่อนจะเป็น แฮร์รี่ เคน จ่ายบอลเร็วเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาถึง เดยัน คูลูเซฟสกี้ หักข้อเข้าในคืนให้ ซน ฮึง-มิน ล้มตัวซัดตามน้ำหลุดเสาแรกออกไปอย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 66 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นขึ้นมาอีกหน

จากจังหวะของ เฟร็ด พาบอลหนีขึ้นมาก่อนจะจ่ายออกขวาไปให้ เจดอน ซานโช่ ไหลตามช่องถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงยัดมุมแคบบอลไปติดเซฟ อูโก้ โยริส ปัดทิ้งออกหลังไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 72 “ไก่เดือยทอง” ตามตีเสมอได้สำเร็จ

จากจังหวะของ คริสเตียน โรเมโร่ ขยับเติมเกมสูงจ่ายบอลต่อไปให้ ซน ฮึง-มิน ดึงจังหวะไหลออกซ้ายถึง เซร์คิโอ เรกีล่อน จ่ายเข้าเขตโทษไปติด แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เหยีดดขาสกัดไม่ดีลอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองไปไม่เหลือ สเปอร์ส ไล่ตีเสมอได้ 2-2

นาทีที่ 77 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทอง

จากจังหวะประสานงานสุดสวยทางขวาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายให้ เจดอน ซานโช่ ก่อน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดมารับคืนในเขตโทษจ่ายเร็วด้วยขวาบอลติดไซค์ก้อยหวิดเสียบโคนเสาติดเซฟ อูโก้ โยริส พุ่งตบทิ้งไปได้นิดเดียว

นาทีที่ 82 โรนัลโด้ แก้ตัวได้สำเร็จ

จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ อเล็กซ์ เตลลิส ปั่นบอลโค้งมาหน้ากรอบให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สลัดหนี แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ขึ้นโหม่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไปสุดเหนือชั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกแซง 3-2

จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ สเปอร์ส ไปได้ 3-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสทำได้ดุดันกว่าทำให้เกมนี้ ปีศาจแดง เอาชนะไปจนได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 50 คะแนน อยู่อันดับที่ 4 และทางด้าน สเปอร์ส มี 45 คะแนน อยู่อันดับที่ 7