เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มีเหตุการณ์ที่สร้างจุดเปลี่ยนมากมายเลยทีเดียว สำหรับการแข่งขันระหว่าง เอเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูลในค่ำคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะจังหวะที่ค้านสายตาของ VAR
สำหรับจังหวะที่เกิดเป็นประเด็นดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นช่วงทดเวลาเจ็บ ที่ทางลิเวอร์พูลน่าจะได้ประตูชัยในจังหวะนี้ โดยการทำประตูจาก จอร์แดน แฮนเดอร์สัน ผ่านการจ่ายบอลของ ซาดิโอ มาเน่ แต่ทว่าผลจาก VAR ทางผู้ตัดสินมองว่าเป็นการล้ำหน้า ที่เรียกได้ว่าค้านสายตาผู้จัดการทีมอย่าง เจเก้น คล็อปป์ ไปไม่น้อย
โดยภาพจาก VAR นั้นเห็นว่าตำแหน่งล้ำหน้าของ ซาดิโอ มาเน่ นั้นมีความก้ำกึ่งสูงมาก ๆ แฟนบอลหลายคนก็ยังมองว่าเป็นการล้ำหน้าเพียงแค่แขนเสื้อเสียด้วยซ้ำ ซึ่งในเรื่องนี้ คล็อปป์ ก็ได้กล่าวกับสื่อว่า
“ผมไม่แน่ใจเลยว่า กฏที่เขียนออกมาสำหรับ VAR นั้น มันเป็นประโยชน์ต่อเกมรุกหรือไม่ แต่มั่นใจได้เลยว่า มันไม่ก้ำกึ่งหรือ 50-50 อย่างแน่นอน เพราะผมเองยังดูไม่ออกเลยว่ามันล้ำหน้าได้ยังไง?”
“เด็ก ๆ ในทีมเล่นกันได้ดีมาก และเราก็เจอสถานการณ์ที่ยากลำบากในหลาย ๆ ครั้ง ตอนนี้เราเพียงแค่ต้องจัดการและรับมือกันในหลายเรื่องเลยล่ะ”
สำหรับเกมดังกล่าว นอกจากประเด็นของ VAR แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือจังหวะการทำฟลาว์ของ พิกฟอร์ด ที่เข้าหนักจน ไคต์เล่นต่อไม่ไหว ซึ่งนั้นก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเกมที่ต้องเสียกองหลังสุดแกร่งไปของลิเวอร์พูล รวมทั้งการตัดสินล้ำหน้าจาก VAR ที่ทำให้ทีมต้องเก็บเพียงแค่ 1 แต้ม จากโอกาสที่น่าจะคว้าได้ถึง 3 แต้มในเกมนี้