นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่งของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่เขาได้รับการโหวตจากบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพให้เป็นเจ้าของรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2021-22 ไปครอง
ทั้งนี้ นี่นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ ซาลาห์ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ หลังจากสมัยแรกเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2017-18 โดยก่อนหน้าเขามีทั้งหมด 6 คนที่เคยได้แตะรางวัลนี้ 2 หน และมันก็ยังไม่เคยมีใครที่ได้ครองรางวัลถึง 3 สมัยมาก่อน ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูกันว่า 6 คนที่ว่านั้นมีใครกันบ้าง
– เควิน เดอ บรอยน์
เริ่มจากคนที่ใกล้ตัวที่สุดก่อนเลย เดอ บรอยน์ ได้รางวัลนี่เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2019-20 จากการที่ซีซั่นนั้นเขาโชว์ฟอร์มสุดโหดด้วยการทำ 13 ประตูกับ 20 แอสซิสต์จากการลงเล่นในลีก 35 เกม ทำให้แม้ว่าซีซั่นนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นเพียงรองแชมป์ แต่ดาวเตะชาวเบลเยียมก็ยังได้รับรางวัลใหญ่ปลอบใจ
ขณะที่รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจาก พีเอฟเอ สมัย 2 ของ เดอ บรอยน์ ก็ไม่ต้องรอนาน เพราะเกิดขึ้นในซีซั่นถัดมาทันที โดยถึงแม้ในฤดูกาล 2020-21 เขาจะมีอาการบาดเจ็บจนทำให้ได้ลงเล่นในลีกไปแค่ 25 นัด แต่เจ้าตัวก็ยังทำได้ 6 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ จนมีส่วนสำคัญในการส่งให้ แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ลีกไปนอนกอด
– แกเร็ธ เบล
แม้ว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะจบฤดูกาล 2010-11 ด้วยการเป็นเพียงอันดับ 5 ของตารางคะแนน แต่มันก็เป็นซีซั่นที่ เบล ทำผลงานได้โดดเด่นอย่างมาก โดยถึงแม้ตัวเลขด้านประตูกับแอสซิสต์จะอยู่เพียง 7 ลูกกับ 1 หน ตามลำดับ จากการลงเล่นในลีก 30 นัด แต่การลากเลื้อยของเขามันสร้างความฮือฮาให้กับหลายคนได้เป็นอย่างดีจนทำให้เขาได้รางวัลในปีนั้นกลับบ้าน
พอถึงซีซั่น 2012-13 ผลงานของ เบล ร้อนแรงกว่าตอนที่ได้รางวัลสมัยแรกเยอะ เพราะเขาทำได้ถึง 21 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีก 33 เกม โดยซีซั่นนั้นเขาครองอันดับ 3 ในชาร์ตดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ด้วย ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพส่วนใหญ่เลือกโหวตให้เขาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมไปเชยชม
– คริสเตียโน่ โรนัลโด้
หลังจากที่มีประเด็นดราม่ากับทีมชาติอังกฤษในศึก ฟุตบอลโลก 2006 ประกอบกับการที่ฟอร์มในช่วงหลายฤดูกาลก่อนหน้านั้นเข้าขั้นน่าผิดหวัง ทำให้หลายคนคิดว่าการที่ โรนัลโด้ ยังได้อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปในซีซั่น 2006-07 มันถือว่าน่าแปลกใจมากๆ ถึงกระนั้นดาวเตะชาวโปรตุกีสก็แสดงให้เห็นว่าเขามีดีด้วยการทำไป 17 ประตูกับ 8 แอสซิสต์จากการลเงล่นในลีก 34 เกม จนทำให้เขาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจาก พีเอฟเอ เป็นหนแรก
โรนัลโด้ ยกระดับฟอร์มการเล่นของตัวเองขึ้นไปอีกในฤดูกาล 2007-08 ด้วยการยิงไป 31 ลูกกับทำอีก 6 แอสซิสต์ ตลอดการลงเล่นในลีก 34 นัด ทำให้เขาได้รางวัล 2 สมัยติดต่อกัน รวมถึงช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์ลีกได้ด้วย
– เธียร์รี่ อองรี
ในโลกนี้มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่เก่งกาจจนถึงขนาดที่ทั้งทำประตูได้ดีและปั้นเกมได้ยอดเยี่ยม ซึ่ง อองรี เป็นหนึ่งในนั้น เพราะนอกจากที่เขาจะยิงได้ถึง 24 ประตูจากการลงเล่นในลีก 37 เกมเมื่อฤดูกาล 2002-03 แล้วนั้น เขายิงทำได้ถึง 20 แอสซิสต์ด้วย ทำให้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ มันคกเป็นของเขาในแบบที่แทบจะไร้ข้อกังขา
พอถึงฤดูกาล 2003-04 แม้ว่าจำนวนแอสซิสต์ของ อองรี จะลดลงไปเหลือ 6 ครั้งจากการลงเล่นในลีก 37 นัด แต่มันไปชดเชยที่ด้านการทำประตูเพราะเขายิงในลีกได้ถึง 30 ลูก และนั่นก็ทำให้ตำนานดาวยิงของ อาร์เซน่อล เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ 2 สมัยติดต่อกัน
– อลัน เชียเรอร์
34 ลูก คือจำนวนประตูที่ เชียเรอร์ ยิงได้กับการเล่นในลีก 42 นัดให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาล 1994-95 แถมเขายังทำแอสซิสต์ได้อีก 13 หน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับคนที่มีหน้าที่หลักในการยิงประตู และผลงานที่สวยหรูระดับนี้ก็ส่งให้ แบล็คเบิร์น ได้แชมป์ลีกไปครอง ขณะที่ เชียเรอร์ ก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ไปด้วย
ข้ามมายังซีซั่น 1996-97 เชียเรอร์ ก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติของ พีเอฟเอ อีกครั้ง เพียงแต่หนนี้เกิดขึ้นในสีเสื้อของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยซีซั่นนั้นเขายิงเอง 25 ประตู พร้อมกับทำอีก 7 แอสซิสต์ เพียงแต่หนนี้เขาได้รางวัลในฐานะรองแชมป์ลีก
– มาร์ค ฮิวจ์ส
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับการย้ายไปเล่นที่ บาร์เซโลน่า ฮิวจ์ส ก็กลับมาซบตัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในซีซั่น 1988-89 ซึ่งเขาก็ตามหาฟอร์มเก่งเจอทันทีหลังจากทำประตูในลีกไป 14 ลูกจากการลงเล่นในลีก 38 เกม จนส่งผลให้เขาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ เป็นสมัยแรก
ขณะที่ในฤดูกาล 1990-91 แม้ว่า ฮิวจ์ส จะทำประตูในลีกได้ 10 ลูกจากการลงเล่น 31 นัด แต่ในถ้วย ลีก คัพ เขากดไปถึง 6 ประตูจาก 9 เกม และสุดท้ายเขาก็กลายเป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ 2 สมัย