วันพุธที่ 05 พฤษภาคม 2564
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบรองชนะเลิศ นัด 2)
เชลซี (อังกฤษ) -VS- เรอัล มาดริด (สเปน)
เวลา : 02:00 น.
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ลอนดอน – อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด : UEFA.tv
เรตราคาไทย : เชลซี ต่อ 0.25
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
28/08/98 เรอัล มาดริด 0-1 เชลซี (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ)
08/08/13 เรอัล มาดริด 3-1 เชลซี (อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
31/07/16 เรอัล มาดริด 3-2 เชลซี (อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
27/04/21 เรอัล มาดริด 1-1 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เชลซี (อังกฤษ)
17/04/21 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)
20/04/21 เสมอ ไบรท์ตัน 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
24/04/21 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
27/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
01/05/21 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
เรอัล มาดริด (สเปน)
18/04/21 เสมอ เคตาเฟ่ 0-0 (เยือน, ลา ลีกา)
21/04/21 ชนะ กาดิซ 3-0 (เยือน, ลา ลีกา)
24/04/21 เสมอ เรอัล เบติส 0-0 (เหย้า, ลา ลีกา)
27/04/21 เสมอ เชลซี 1-1 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
01/05/21 ชนะ โอซาซูน่า 2-0 (เหย้า, ลา ลีกา)
สภาพทีมโดยทั่วไป
เชลซี (อังกฤษ)
เจ้าถิ่น เชลซี เกมนี้มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียง มาเตโอ โควาซิช ส่วน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ต้องทดสอบความฟิต การจัดทัพตามหมาก 3-5-2 เตรียมส่ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คริสเตียน พูลิซิช และ จอร์จินโญ่ ได้พักจากการเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาเป็นตัวจริงพร้อม เมสัน เมาน์, ติโม แวร์เนอร์, ติอาโก้ ซิลวา และ เบน ชิลเวลล์ ทำให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์, แทมมี่ อบราฮัม, รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซีเย็ค และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ต้องรอโอกาส
เรอัล มาดริด (สเปน)
ทีมเยือน เรอัล มาดริด เพิ่งเสีย ราฟาแอล วาราน ไปจากอาการบาดเจ็บอีกสมทบ ดานี่ การ์บาฆาล กับ ลูกัส บาซเกซ สวนทางกับ เซร์คิโอ รามอส กับ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ หายเจ็บ และฟิตสมบูรณ์กลับมา รวมทั้ง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว การจัดทีมเตรียมเปลี่ยนแผนจาก 3-5-2 และ 4-2-3-1 กลับมาเล่น 4-3-3 พร้อมส่ง เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมกลับมาคุมแนวรับ ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส ได้พักจากเกมลา ลีกา นัดล่าสุดจะกลับมาประจำการในแผงมิดฟิลด์กับ คาร์ลอส คาเซมิโร่ ส่วน 3 ตัวรุก เอแด็น อาซาร์ อาจได้ออกสตาร์ทต่อร่วมกับ คาริม เบนเซม่า และ มาร์โก อาเซนซิโอ โดยมี อิสโก้, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, มาเรียโน่ ดิอาซ, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, วีนิซิอุส จูเนียร์ และ โรดริโก้ โกเอส เป็นตัวสอดแทรก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (อังกฤษ)
เชลซี (3-5-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาน์, เบน ชิลเวลล์ – คริสเตียน พูลิซิช, ติโม แวร์เนอร์
เรอัล มาดริด (สเปน)
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – นาโช่ เฟร์นานเดซ, เอแดร์ มิลิเตา, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ – คาร์ลอส คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช – เอแด็น อาซาร์, มาร์โก อาเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า
ความน่าจะเป็นของเกม
เชลซี ฟอร์มช่วงหลังยังดีเยี่ยมด้วยการกลับมาเก็บชัยในเกมล่าสุด ทำให้กำชัย 3 เกมจาก 5 นัดหลัง แม้มีเสมอ 2 เกมจาก 4 นัดหลัง แต่ไม่แพ้จากการลงสนาม 5 นัดหลัง พร้อมเกมรับ-รุกยังเล่นในทิศทางที่ดีมากอย่างต่อเนื่อง แต่เกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก ยังทำได้ไม่ดีมากนัก ส่วนทางด้าน มาดริด ฟอร์มระยะหลังยังเล่นหวังผลได้หลังเสมอ 2 นัดติด ก่อนกลับมาคว้าชัยในเกมล่าสุด แม้เก็บชัยเพียง 2 เกมจากการลงสนาม 6 นัดหลัง และเสมอรวมมากถึง 4 เกมจาก 6 นัดหลัง แต่ทั้งเกมรับ-รุกยังมีคุณภาพ พ่วงผลงานไร้พ่ายตลอด 19 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเยือนในแชมเปี้ยนส์ ลีก ยังทำได้ดี แมตช์นี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” กับ “ราชันชุดขาว” สูสันกันทั้งฟอร์ม และขุมกำลัง ทำให้โอกาสเจ๊ากันอีกในเวลาปกติมีความเป็นไปได้สูง