การแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ระหว่าง เรอัล มาดริด ลงสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
นาทีที่ 10 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ ได้ลองปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาทางฝั่งขวา บอลทิศทางตรงกรอบประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนรับเอาไว้ได้ไม่มีปัญหา
นาทีที่ 20 เรือใบสีฟ้า ยังครองเกมบุกกดดันได้ดีกว่า
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งหนี กาเซมีโร่ ก่อนจะตวัดยิงทางเสาขวา นายด่านเจ้าถิ่นปัดทิ้งช่วยทีมหวุดหวิด
นาทีที่ 40 ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ กาเซมีโร่ จิ้มบอลสกัดทิ้งกลายเป็นตั้งให้ ฟิล โฟเด้น พักอกลองส่องไกลระยะ 25 หลาสวนทันที บอลมุดทำ ติโบต์ กูร์กตัวส์ รีบล้มตัวทุบทิ้งออกไป
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปก่อน 0-0 (สกอร์รวมสองนัด “เรือใบ” ยังนำอยู่ที่ 4-3) รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 46 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบมาได้ประตูขึ้นนำ
จากจังหวะของ ดานี่ การ์บาฆาล สอดขึ้นมาทางฝั่งขวาในเขตโทษปาดขวางมาที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงแบบไร้ตัวประกบแต่เจ้าตัวดันยิงบอลออกข้างกรอบด้านซ้ายไปแบบไม่น่าเชื่อ
นาทีที่ 73 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทะยานออกนำจนได้
จากจังหวะของ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลมาพื้นที่โล่งกลางสนาม แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระชากขึ้นมาคนเดียวไหลปั่นไปทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ บรรจงปั่นบอลโค้งหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เสียบทางเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 82 เบนเซม่า พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะของ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า เปิดทิ้งไปด้านขวาในเขตโทษที่ คาริม เบนเซม่า กระโดดเกี่ยวบอลโยกหนีเกมรับคู่แข่ง ยิงบอลไปติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส แต่น่าเสียดายหัวหกตัวเก่งราชันล้ำหน้าไปแล้ว
นาทีที่ 90 เรอัล มาดริด ไล่เจ๊า 1-1
จากจังหวะของ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า เปิดบอลโด่งมาให้ คาริม เบนเซม่า วิ่งกระโดดเกี่ยวบอลกลับมาที่ โรดริโก้ ตัดหน้าจิ้มบอลเข้าประตูไปก่อน เอแดร์ซอน โมราเอส จะเข้าถึง ราชันชุดขาว ไล่คืน 1-1
ทดเจ็บนาทีที่ 90+2 โรดริโก้ ฮีโร่ซัดประตูพลิกแซง
จากจังหวะของ ดานี่ การ์บาฆาล ได้โอกาสโยนบอลทางฝั่งขวาเลี้ยวข้ามหัว มาร์โก อเซนซิโอ และเป็น โรดริโก้ ได้โหม่งเต็มแรงบอลลอยซุกตาข่าย เรอัล มาดริด พลิกแซง 2-1
จบ 90 นาที เรอัล มาดริด พลิกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป ได้ 2-1 ทำให้สกอร์รวมสองนัดเสมอกันที่ 5-5 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที
นาทีที่ 92 เอแดร์ซอน โมราเอส ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้ความเร็วเลาะริมเส้นด้านซ้ายไหลมาหน้ากรอบเขตโทษ คาริม เบนเซม่า ตั้งป้อมซัดบอลเบาเข้าซอง เอแดร์ซอน โมราเอส รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 93 ราชันชุดขาวได้เฮลั่น
จากจังหวะของ รูเบน ดิอาส พลาดท่าไปจิ้มบอลแต่ดันถูกขา คาริม เบนเซม่า ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าชี้ฟาวล์ ก่อนจะเป็น คาริม เบนเซม่า ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซาก เรอัล มาดริด แซงเป็น 3-1 ผลสองนัดหนีเป็น 6-5
จบเกม 120 นาที เรอัล มาดริด ชนะช่วงต่อเวลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3-1 (สกอร์รวมสองนัด เรอัล มาดริดเอาชนะไป 6-5 ) ส่งผลให้ เรอัล มาดริด ทะลุผ่านเข้าไปชิงดำชปล.กับ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส
สนับสนุนไฮไลท์มันส์ๆ โดย ufabet