ในที่สุดเรื่องราวการย้ายทีมของ ซาดิโอ มาเน่ ปีกชาวเซเนกัลก็จบลงอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ล่าสุดเขาเปิดตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเขาย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปด้วยค่าตัวในเบื้องต้น 32 ล้านยูโร พร้อมกับมีอ็อปชั่นต่างๆ ที่อาจจะทำให้ดีลนี้เพิ่มไปเป็น 41 ล้านยูโรด้วยกัน
สำหรับคอบอล พรีเมียร์ลีก นั้น นี่เป็นดีลที่อาจจะน่าใจหายในระดับหนึ่งเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า มาเน่ ค้าแข้งในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีมาเป็นเวลาถึง 8 ฤดูกาลด้วยกัน แบ่งเป็น 2 ซีซั่นกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ 6 ฤดูกาลกับ ลิเวอร์พูล โดยเขาทำไปทั้งหมด 111 ประตู จากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 263 นัด ซึ่งตลอดช่วง 8 ซีซั่นที่ว่านั้น มาเน่ เคยสร้างผลงานที่น่าทึ่งเอาไว้ได้หลายแบบด้วยกัน และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างอันที่โดดเด่นกันสัก 3 ข้อ
– ยิงถึง 2 หลักได้ครบ
หนึ่งในจุดเด่นของ มาเน่ คือความคงเส้นคงวา ตลอดช่วง 8 ฤดูกาลที่ผ่านมานั้นไม่มีซีซั่นไหนเลยที่เขายิงใน พรีเมียร์ลีก น้อยกว่า 10 ลูก โดยซีซั่นที่ยิงได้น้อยที่สุดคือตอนเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อฤดูกาล 2014-15 กับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่น 2017-18 ที่ยิงได้ 10 ประตู ส่วนฤดูกาลที่ดีที่สุดคือ 2018-19 ที่ซัดในลีกไป 22 ลูก จนทำให้ตอนนั้นเขาได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง
ด้วยเหตุนี้ มาเน่ เลยถือเป็นนักเตะที่ยิงใน พรีเมียร์ลีก ถึงเลข 2 หลักแบบครบทุกฤดูกาลได้มากที่สุด โดยที่จริงหากย้อนไปสมัยที่อยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมในออสเตรียนั้น เขาก็ยิงในลีกได้เกิน 10 ลูกใน 2 ซีซั่นที่อยู่กับทีมเหมือนกัน ก่อนที่ในฤดูกาล 2014-15 จะทำได้ 2 ประตูในลีกจากการเล่น 4 นัด แล้วค่อยมาซบ เซาธ์แฮมป์ตัน ในอีกไม่นานหลังจากนั้น
ผลงานใน พรีเมียร์ลีก ของ มาเน่
ฤดูกาล (2014-15) 10 ประตู 37 นัด (เซาธ์แฮมป์ตัน)
ฤดูกาล (2016-17) 13 ประตู 27 นัด (ลิเวอร์พูล)
ฤดูกาล (2017-18) 10 ประตู 29 นัด (ลิเวอร์พูล)
ฤดูกาล (2018-19) 22 ประตู 36 นัด (ลิเวอร์พูล)
ฤดูกาล (2019-20) 18 ประตู 35 นัด (ลิเวอร์พูล)
ฤดูกาล (2020-21) 11 ประตู 35 นัด (ลิเวอร์พูล)
ฤดูกาล (2021-22) 16 ประตู 34 นัด (ลิเวอร์พูล)
– จอมเบิกร่อง
ประตูแรกนั้นแทบจะเป็นลูกที่สร้างความฮึกเหิมให้กับทีมได้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ทีมขึ้นนำ, ตีเสมอ หรือเป็นการไล่จี้ขึ้นมาจนอาจจะมีลุ้นกลับมาได้หากไม่โดนนำห่างมากเกินไป ซึ่งนับตั้งแต่ที่มาอยู่กับ “หงส์แดง” นั้น ดาวเตะชาวเซเนกัลก็เป็นคนที่ทำประตูแรกในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ถึง 38 ครั้งด้วยกัน
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ มาเน่ ถือเป็นนักเตะที่ทำประตูแรกให้กับทีมของตัวเองในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ได้เยอะเป็นอันดับ 2 ของลีก หากดูตั้งแต่ซีซั่น 2016-17 เป็นต้นมา เป็นรองแค่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทำไป 43 หนแค่คนเดียว ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของ มาเน่ ทำประตูแบบนั้นได้ 32 ครั้ง
5 นักเตะที่ยิงประตูแรกให้ทีมของตัวเองในแต่ละนัดมากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 เป็นต้นมา
1. แฮร์รี่ เคน (43 ครั้ง)
2. ซาดิโอ มาเน่ (38 ครั้ง)
3. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (32 ครั้ง)
4. เจมี่ วาร์ดี้ (30 ครั้ง)
5. ราฮีม สเตอร์ลิง (29 ครั้ง)
– ผู้ทำแฮตทริกประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปี 2015 มาเน่ พา เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดรัง เซนต์ แมรี่ส์ ไล่ถล่ม แอสตัน วิลล่า ไปแบบขาดลอย 6-1 โดยวันนั้นเขาถือเป็นพระเอกของเจ้าถิ่นจากการทำแฮตทริกได้ ซึ่งประตูที่เขาทำได้นั้นเกิดขึ้นในนาทีที่ 13, 14 และ 16
ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่ตอนเริ่มเตะไปจนถึงลูกที่ 3 นั้น มาเน่ ถือเป็นคนที่ทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก เอาชนะสถิติเดิมของ ดไวท์ ยอร์ค ที่เคยทำแฮตทริกตอนเข้าสู่นาทีที่ 22 ของการแข่งขันได้ นอกจากนี้ ถ้านับแค่ช่วงเวลาจากประตูแรกจนถึงลูกที่เป็นแฮตทริกแล้วล่ะก็ มาเน่ ก็เป็นคนที่ใช้เวลาในการทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดเช่นกัน ด้วยเวลาเพียง 2.56 นาที หลังจากสถิติเก่าเป็นของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่เคยใช้ระยะห่าง 4.33 นาทีในการทำแฮตทริกได้
แฮตทริกที่เร็วที่สุดใน พรีเมียร์ลีก หากนับจากตอนเริ่มเกมไปจนถึงการทำลูกที่ 3
1. ซาดิโอ มาเน่ 16 นาที
2. ดไวท์ ยอร์ค 22 นาที
3. เควิน เดอ บรอยน์ 24 นาที
4. เจอร์เมน เพนแนนท์ 26 นาที
5. เอียน มาร์แชลล์ 27 นาที
แฮตทริกที่เร็วที่สุดใน พรีเมียร์ลีก หากนับจากตอนที่ทำลูกแรกไปจนถึงลูกที่ 3
1. ซาดิโอ มาเน่ 2.56 นาที
2. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 4.33 นาที
3. เจอร์เมน เดโฟ 7.00 นาที
4. กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ 7.10 นาที
5. เซร์คิโอ อเกวโร่ 8.00 นาที
ขอบคุณบทความดีๆ ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง ufabet