“กระทิงดุ” ผลงานน่าผิดหวังแถมโดน วีเออาร์ เป็นใจแจกทั้ง ประตู-จุดโทษ แต่มิวายพลาดโทษแถมโดน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกประตูสุดงามพา โปแลนด์ ตีเสมอ 1-1 โดย สเปน ขยับเพิ่มเป็น 2 คะแนนรั้งอันดับ 3 กลุ่มนี้ต้องลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย ในศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย นัดสอง กลุ่ม อี คืนวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สนาม เอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา เมือง เซบีญา ประเทศ สเปน เป็นการพบกันระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน ยอดทีมดังโดยเก็บได้เพียง 1 แต้มจากนัดประเดิมสนาม ดวล โปแลนด์ ที่พลาดท่าพ่าย สโลวาเกีย
ออกสตาร์ทเกมไม่ถึง 2 นาที “กระทิงดุ” หวิดงานเข้าจากจังหวะของ อัลบาโร่ โมราต้า ลงมาช่วยเกมรับไปอัด ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ ร่วงลงไปในกรอบเขตโทษโชคดี ผู้ตัดสิน ใจแข็งไม่เป่าให้ของขวัญ โปแลนด์ นาทีที่ 6 โปแลนด์ ทักทายก่อนคราวนี้เป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถอยมารับบอลก่อนจ่ายเข้าในบอลแฉลบขาผู้เล่น สเปน มาเข้าทาง มาเตอุสซ์ คลิช ตั้งป้อมอัดด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาเฉี่ยวคานบนออกหลังนิดเดียว ต่อมานาที่ 10 สเปน ออกหมัดบ้างจากจังหวะทางซ้ายของ ดานี่ โอลโม่ ขยันไปฉกบอลก่อนพาเข้าเขตโทษได้ช่องซัดด้วยขวาเสียดายโดนไม่เต็มกระดอนพื้นไปตรงตัว วอยเชี๊ยค เชสนี่ ล้มตัวรับเอาไว้ได้ไม่ยาก 20 นาทีผ่าน “กระทิงดุ” เร่งเครื่อง เปา ตอร์เรส ขยับขึ้นมาสูงลองซัดไกลด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงหลุดเสาแรกออกไป ต่อมาเป็น อัลบาโร่ โมราต้า สอดมารับบอลในเขตโทษก่อนโขกชงเข้าในไปติดหัว ยาน เบดนาเร็ค โหม่งสกัดไม่ดีเข้าทาง โรดรี เอร์นานเดซ ซัดหน้ากรอบ 6 หลาแต่ไม่ยิงไม่โดนบอลเหลือเชื่อ นาทีที่ 25 สเปน ทะยานออกนำ 1-0 จากบอลทางขวาของ เคราร์ด โมเรโน่ พาบอลตัดเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายผ่านบล็อคแนวรับ โปแลนด์ มาเข้าทาง อัลบาโร่ โมราต้า สอดมาชาร์จตัดหน้า วอยเชี๊ยค เชสนี่ ตุงตาข่าย จากจังหวะนี้ ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงล้ำหน้าขึ้นมา ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ ขอรอฟังสัญณานจากห้อง วีเออาร์ ก่อนหันมาเป่ายืนยันให้เป็นสกอร์ของ “กระทิงดุ” นาทีที่ 34 “กระทิงดุ” หวิดบวกสกอร์เพิ่มจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ เคราร์ด โมเรโน่ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลอ้อมกำแพงพุ่งผ่านมือ วอยเชี๊ยค เชสนี่ เบียดเสาแรกออกหลังนิดเดียว นาทีต่อมา โปแลนด์ ตอบโต้ทันควัน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนดึงจังหวะตักเข้าในให้ การอล ชวีแดรซกี้ สอดมาชาร์จในกรอบ 6 หลาแต่ไปโดนใต้บอลเหินข้ามคานออกไป แต่แล้วนาทีที่ 42 โปแลนด์ พลาดโอกาสทอง จอร์ดี้ อัลบา เสียบอลหน้าประตูโดนฉกไหลมาเข้าทาง การอล ชวีแดรซกี้ โยกเข้าซ้ายก่อนปั่นโค้งพุ่งไปชนเสาเด้งมาเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ตามมาซ้ำจ่อๆติดแขน อูไน ซิมอน เซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ ท้ายครึ่งแรก สเปน มาส่งท้ายจากบอลทางซ้ายของ จอร์ดี้ อัลบา สอดขึ้นมาตบเข้าเขตโทษให้ เคราร์ด โมเรโน่ โฉบมาตวัดที่เสาแรกแต่มุมไม่มีเข้าข้างตาข่ายออกหลังเหมือนเดิม หมดครึ่งเวลาแรก สเปน ออกนำ โปแลนด์ 1-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 54 โปแลนด์ มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะทางขวาของ คามิล จอซเวียค สอดขึ้นมาครอสเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ชิงเหลี่ยมเอาชนะ อายเมริค ลาปอร์กต์ โขกผ่านมือ อูไน ซิมอน เสียบหน้าต่างงามหยด ต่อมานาทีที่ 57 สเปน พลาโอกาสแซงนำอีกครั้งเป็นจากความผิดพลาดของ ยาคุป โมเดอร์ เข้าบอลช้าไปย่ำใส่ข้อเท้า เคราร์ด โมเรโน่ ร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ปล่อยเกมดำเนินต่อก่อนได้รับสัญณานขอวิ่งออกไปดู วีเออาร์ แล้วหันกลับมาชี้เป็นจุดโทษ แต่จากจังหวะนี้ เคราร์ด โมเรโน่ สังหารจุดโทษพลาดบอลพุ่งผ่านมือ วอยเชี๊ยค เชสนี่ ไปชนเสาเด้งออกมาเข้าทาง อัลบาโร่ โมราต้า ตามมาชาร์จโล่งๆหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าผิดหวัง นาทีที่ 73 “กระทิงดุ” พยายามเร่งเครื่อง มาร์กอส ยอเรนเต้ เติมขึ้นมาทางขวาตักบอลเข้าเขตโทษข้ามแนวรับ โปแลนด์ มาตกใส่หัว เฟร์ราน ตอร์เรส โขกแบบไร้ตัวประกบหลุดเสาแรกออกหลัง ต่อมานาทีที่ 84 สเปน โหมเต็มที่ จอร์ดี้ อัลบา ทิ้งเข้าเขตโทษลึกมาถึง ปาโบล ซาราเบีย โขกตั้งให้ อัลบาโร่ โมราต้า ขยับมาชาร์จหน้ากรอบ 6 หลาแต่ต้องชม วอยเชี๊ยค เชสนี่ ออกมาปิดมุมเซฟช่วยเอาไว้ได้เหลือเชื่อ หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม สเปน โดน โปแลนด์ ไล่เจ๊า เสมอ 1-1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง
สเปน : อูไน ซิมอน, มาร์กอส ยอเรนเต้, อายเมริค ลาปอร์กต์, เปา ตอร์เรส, จอร์ดี้ อัลบา, โกเก้ (ปาโบล ซาราเบีย น.68), โรดรี เอร์นานเดซ, เปดรี้, เคราร์ด โมเรโน่ (ฟาเบียน รุยซ์ น.68), อัลบาโร่ โมราต้า (มิเกล โอยาร์ซาบัล น.87), ดานี่ โอลโม่ (เฟร์ราน ตอร์เรส น.61)
โปแลนด์ : วอยเชี๊ยค เชสนี่, บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้, คามิล กลิค, ยาน เบดนาเร็ค (พาเวล ดาวิโดวิชซ์ น.85), คามิล จอซเวียค, มาเตอุสซ์ คลิช (แคสเปอร์ คอสโลวสกี้ น.55), ยาคุป โมเดอร์ (คาโรล ลิเน็ตตี้ น.85), ไทมุสเตอุส ปูแคตช์, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้, การอล ชวีแดรซกี้ (เชมึสวัฟ ฟรันคอฟส น.68), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้