การแข่งขันในศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก ระหว่าง โวล์ฟสแบร์เกอร์ (ออสเตรีย) เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์(อังกฤษ) เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-1-3-2 และฝั่งผู้มาเยือน มาสู้ในระบบ 4-2-3-1
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 5 สเปอร์ส ได้ลุ้นก่อน
จากจังหวะสวนกลับไวของ ซน ฮึง-มิน ขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะกระชากตัดเข้าในก่อนจะแต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วตัดสินใจปั่นโค้งแต่ทิศทางยังดีไม่พอบอลโค้งหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 12 สเปอร์ส เกือบพังประตูได้
จากจังหวะของ ซน ฮึง-มิน เอาบอลลงได้ในเขตโทษก่อนจะหมุนตัวส่งบอลไหลย้อนมาให้ เดเล่ อัลลี่ มาเข้ามาแปเน้นๆ แต่แรงเกินไปบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 13 ซน ฮึง-มิน พังประตูให้ทีมเยือนไปก่อน
จากจังหวะของ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะไหลต่อไปให้ แกเร็ธ เบล หลุดขึ้นเกือบสุดเส้นหลังทางฝั่งขวาจ่ายหักข้อเข้ามาในกรอบถึง ซน ฮึง-มิน ล้มตัวสะบัดโหม่งเล่นทางส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม สเปอร์ส ออกนำ 0-1
นาทีที่ 20 ทีมเยือนชวดพังประตูที่สอง
จากจังหวะของ เดเล่ อัลลี่ พาบอลหลบแข้งเจ้าบ้านก่อนจะหลุดไปสุดเส้นหลังทางฝั่งซ้าย ในกรอบเขตโทษตัดสินใจซัดมุมแคบแต่ไปติดบล็อกของ อเล็กซานเดอร์ โคฟเลอร์ นายด่านโวล์ฟสแบร์เกอร์ออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 23 เจ้าบ้านได้ตอบโต้บ้าง
จากจังหวะของ เดยัน โยเวลยิช พาบอลจี้เข้าไปในเขตโทษสเปอร์สก่อนจะโยกหลอกแล้วกดด้วยเท้าซ้ายแต่บอลพุ่งไปตรงตัว อูโก้ โยริส รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 29 แกเร็ธ เบล โชว์ความเหนือชั้น
จากจังหวะ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะไหลบอลไปให้ แกเร็ธ เบล หลุดขึ้นไปสุดริมเส้นทางฝั่งขวาก่อนจะดึงบอลหลอกด้วยส้นเท้าก่อนที่ แกเร็ธ เบล จะได้ช่องกดด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อบอลโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม สเปอร์ส ทิ้งห่าง 0-2
นาทีที่ 34 สเปอร์ส มาพังประตูที่สามได้อีก
จากจังหวะของ ลูคัส มูร่า กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาจี้เข้าไปในเขตโทษก่อนจะหลอกแข้งเจ้าบ้านถึง 3 คน และยิงเล่นทางบอล ผ่านมือ อเล็กซานเดอร์ โคฟเลอร์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น สเปอร์ส นำห่าง 0-3
นาทีที่ 45+2 โวล์ฟสแบร์เกอร์ ได้โอกาสลุ้นทวงประตูคืน
จากลูกฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 20 หลาของ คริสโตเฟอร์ เวอร์นิทซนิจ รับหน้าที่ยิง บอลพุ่งแรงข้ามกำแพงแต่ก่อนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก โวล์ฟสแบร์เกอร์ ตามหลัง สเปอร์ส อยู่ 0-3 รูปเกมเป็นทีมเยือนที่ครองบอลบุกกดดันได้ดีกว่าและเฉียบคมกว่าสามารถเปลี่ยนมาเป็นประตูได้ถึง 3 ลูก ทำให้ในช่วงครึ่งเวลาหลังก็จะเล่นง่ายขึ้นไปอีก
นาทีที่ 50 สเปอร์สเกือบบวกสกอร์เพิ่มได้
จากจังหวะของ ลูคัส มูร่า วิ่งทะลุช่องไปส่งบอลต่อให้ เดเล่ อัลลี่ ตอกส้นส่งย้อนให้ แกเร็ธ เบล ได้กดเน้นๆ ในกรอบเขตโทษโวล์ฟสแบร์เกอร์บอลพุ่งแรงกำลังจะเสียบมุมเสาไกล แต่ อเล็กซษนเดอร์ โคฟเลอร์ พุ่งปัดไว้ได้ด้วยปลายมือช่วยโวล์ฟสแบร์เกอร์รอดพ้นการเสียประตู
นาทีที่ 54 โวล์ฟสแบร์เกอร์ตีไข่แตก
จากจังหวะของ มุสซ่า ซิสโซโก้ เข้าถึงบอลช้ากลายเป็นเตะตัดฟาวน์ใส่ คริสโตเฟอร์ เวอร์นิทซนิจ ที่หลุดเข้าไปในกรอบ และเป็น ไมเคิ่ล ลีนเดิ่ล รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด โวล์ฟสแบร์เกอร์ ไล่มา 1-3
นาทีที่ 63 โวล์ฟสแบร์เกอร์ เกือบไล่ขึ้นมาได้อีกลูก
จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลาเยื้องมาทางฝั่งซ้าย ไมเคิ่ล ลีนเดิ่ล วางบอลเข้าไปในเขตโทษ บอลเกือบถึง เดยัน โยเวลยิช แต่แข้งสเปอร์สก็ช่วยกันโหม่งเคลียร์ออกไปได้
นาทีที่ 88 สเปอร์ได้ประตูที่สี่
จากจังหวะของ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก หลุดขึ้นไปมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลเข้าในไปให้ เอริก ลาเมล่า โหม่งต่อให้ การ์ลอส วินิซิอุส ใช้ปลายเท้าจิ้มไปเปลี่ยนทางบอลเข้าไปไม่เหลือ สเปอร์ส บวกเพิ่ม 1-4
จบเกม โวล์ฟสแบร์เกอร์ แพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไป 1-4 รูปเกมเป็นทางฝั่ง สเปอร์สที่ครองบอลไว้ได้ทั้งหมดทำให้เกมนี้เอาชนะไปไม่ยาก และกุมความได้เปรียบในนัดหน้าไปได้ถึงสี่ประตู ทำให้มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะเข้าสู่รอบต่อไป
เกมนัดถัดไปของ โวล์ฟสแบร์เกอร์ พบกับ สตวร์มกราซ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2021 และทางด้าน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2021