การแข่งขันศึกฟุตบอลคาราบาวคัพ รอบรองชนะเลิส นัดแรก ระหว่าง ลิเวอร์พูล ลงสนามพบกับ อาร์เซน่อล เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-2-3-1
เกมเริ่มมาได้ 7 นาที ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนเลย
จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลออกซ้ายไปให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาเปิดบอลลุ้นเข้ามาหน้าประตูให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เข้าชาร์จไม่ทัน บอลเด้งตรงตัว แอรอน แรมส์เดล รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล โหมบุกเข้าใส่
จากจังหวะของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน พาบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากตัดเข้ากลางมายิงด้วยขวา บอลยังไปติดบล็อคแนวรับ อาร์เซน่อล เด้งออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 24 ปืนใหญ่ ต้องมาเหลือ 10 คน
จากจังหวะของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน วางบอลข้ามขึ้นหน้าไปขวา กรานิต ชาคา ถอยช่วยแนวรับดันเตะสูงระดับหน้าอกของ ดีโอโก้ โชต้า ผู้ตัดสินมองเป็นจังหวะเล่นอันตราย ให้ใบแดงทันที
นาทีที่ 37 ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องหวังพังประตู
จากจังหวะของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ไหลบอลทะลุช่องเข้าไปให้ ทาคูมิ มินามิโนะ หลุดไปถึงสุดเส้นหลังก่อนจะพยายามจ่ายหักเข้ากลางแต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับอาร์เซน่อลที่เข้ามาบังเอาไว้ได้ทันเวลา
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ อาร์เซน่อล อยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้น้ำได้เนื้อมากกว่า แต่ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้าย ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 48 ลิเวอร์พูล เกือบมาโชคเข้ามาช่วย
จากจังหวะของ ทาคูมิ มินามิโนะ กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เปิดบอลมาหน้าประตู บอลปลิ้นเกือบเสียบตาข่าย แต่บอลก็ยังหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 58 อาร์เซน่อล พยายามหาโอกาสเข้าทำ
จากจังหวะลูกฟรีคิกของ บูกาโย่ ซาก้า เปิดบอลเข้ามากดดันแนวรับในเขตโทษ แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังอ่านเกมออกมาชกทิ้งออกไปได้ก่อน
นาทีที่ 72 อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ คีแรน เทียร์นี่ย์ เติมขึ้นสูงมาทางฝั่งซ้ายเปิดบอลเข้าเขตโทษไปถึง บูกาโย่ ซาก้า สอดมายิงบอลตามน้ำ แต่ก็ยังไม่ผ่าน อลีสซง เบ็คเกอร์ ช่วยเซฟเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 90 ทาคูมิ มินามิโนะ พลาดโอกาสสำคัญ
จากจังหวะของ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน วางบอลจากทางฝั่งขวาเข้ากลางมาบอลถูก อัลแบร์ แซมบี้ โลคองก้า โหม่งทิ้งก่อนจะชนกับ แอรอน แรมส์เดล บอลมาเข้าทาง ทาคูมิ มินามิโนะ ยิงหน้าประตูโล่ง ๆ บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่น่าเชื่อ
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 ลิเวอร์พูล โหมหนักท้ายเกม
จากจังหวะของ แอรอน แรมส์เดล ออกมาตัดบอลไม่ขาด บอลมาเข้าทาง เนโก วิลเลี่ยมส์ ยิงสวนทันที บอลพุ่งหากรอบแต่ยังมี เบน ไวท์ ตามมาเคลียร์ทิ้งได้ทันเวลา
จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซน่อล ไปที่ 0-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่า แต่เจาะแนวรับ ปืนใหญ่ ไม่เข้าแถมยังใช้โอกาสเปลือง ทำให้จบลงด้วยผลเสมอกันไป ต้องไปลุ้นกันต่อในนัดที่สอง