การแข่งขันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-2-1 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เปิดฉากเริ่มครึ่งแรกมาได้ 7 นาที “หงส์แดง” เกือบงานเข้า
จากความผิดพลาดของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สกัดบอลไปติดบล็อค ไค ฮาแวร์ตซ์ บอลกระดอนมาถึง คริสเตียน พูลิซิช พยายามจะแตะหนีแต่ยังไม่ผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ล้มตัวปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะบอลขึ้นทางฝั่งขวาของ ดิโอโก้ โชต้า เปิดบอลเข้าเขตโทษมาติดหัว เทรโวห์ ชาโลบาห์ โขกสกัดพลาดกลายเป็นบอลมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ เก็บบอลได้ก่อนจะล็อกหนี เอดูอาร์ เมนดี้ ได้ช่องยิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ออกนำ 0-1
นาทีที่ 19 “สิงห์บลูส์” ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ เมสัน เม้าน์ท ขยับขึ้นมาเก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดยาวเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลถึง มาร์กอส อลอนโซ่ กดด้วยซ้ายตามน้ำบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล มาได้เม็ดที่สอง
จากจังหวะประสานงานสุดสวยทางฝั่งขวาของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลขึ้นมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แตะบอลเข้าเขตโทษโยกหนี มาร์กอส อลอนโซ่ ก่อนจะยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไปอย่างเหนือชั้น ลิเวอร์พูล นำห่าง 0-2
นาทีที่ 42 เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้ ได้ประตูตีตื้น
จากลูกฟรีคิกริมกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา มาร์กอส อลอนโซ่ ปั่นบอลเข้าไปแต่ยังติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดบอลออกมานอกกรอบบอลมาเข้าทาง มาเตโอ โควาซิช ถอยมา วอลเลย์ด้วยขวาบอลติดไซค์ก้อยพุ่งเข้าสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เชลซี ไล่มา 1-2
นาทีที่ 45+1 “สิงห์บลูส์” กลับเข้าสู่เกมตามตีเสมอ 2-2
จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลหนี อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลอยเข้าเขตโทษบอลถึง คริสเตียน พูลิซิช สอดมาพักอกได้ช่องยิงด้วยซ้ายบอลผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าไปไม่เหลือ เชลซี ไล่มา 2-2
จบครึ่งแรก เชลซี เสมอกับ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 2-2 รูปเกมทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่ตลอด ถึงแม้ หงส์แดง จะทำประตูนำไปก่อนถึงสองลูกแต่ก็มาพลาดง่ายช่วงท้ายเกม ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 50 เชลซี พยายาทเร่งเครื่อง
จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลแหวกขึ้นมาจ่ายออกซ้ายไปถึง มาร์กอส อลอนโซ่ แตะเข้าเขตโทษดึงเข้าขวาหนีตัว อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่จังหวะยิงบอลเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 51 “หงส์แดง” น่าจะได้ประตูพลิกแซง
จากบอลกลางสนามของ ฟาบินโญ่ วางบอลข้ามแนวรับ เชลซี มาถึง ดิโอโก้ โชต้า เก็บบอลได้ในเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไปติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ล้มตัวปัดออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะของ ดิโอโก้ โชต้า ตามมาปั๊มบอลได้ก่อนจะแปะต่อไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกี่ยวกระชากขึ้นมาก่อนจะปั่นไกลด้วยซ้าย เอดูอาร์ เมนดี้ ออกมาไกลแต่ยังถอยไปตะปปทิ้งได้ทันเวลา
นาทีที่ 58 เอดูอาร์ เมนดี้ โชว์ซุปเปอร์เซฟ
จากจังหวะของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำบอลชิ่งให้ ซาดิโอ มาเน่ ขยับมารับบอลก่อนโยกหนี ติอาโก้ ซิลวา หลุดเข้าเขตโทษก้มหน้ากดด้วยขวายัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดได้อีกครั้ง
นาทีที่ 62 เกมเปิดแลกกันสนุก
จากจังหวะบอลเปิดจากทางซ้ายเข้ากรอบ มาถึง คริสเตียน พูลิซิช โฉบตัดหน้า คอสตาส ซิมิคาส ยิงด้วยซ้ายเกือบเสียบใต้คานแต่บอลยังไปติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 80 “สิงห์บลูส์” มาได้ลุ้นจบสกอร์ท้ายเกม
จากลูกฟรีคิกของ เมสัน เม้าน์ท หน้ากรอบเขตโทษปั่นบอลข้ามกำแพงแต่ก็ยังไม่ดีพอจะผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้หมด
จบเกม เชลซี เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ลุ้นมากกว่าแต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ทำได้เพียงแบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ เชลซี มี 43 คะแนน อยู่อันดับที่ 2 และทางด้าน ลิเวอร์พูล มี 42 คะแนน อยู่อันดับที่ 3