การแข่งขันศึกฟุตบอลลา ลีกา สเปน ระหว่าง เรอัล มาดริด ลงสนามพบกับ เรอัล มายอร์ก้า เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2
เกมเริ่มมาได้ 3 นาที “ราชันชุดขาว” ทะยานขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากความผิดพลาดของ โฆเซ่ กาย่า แนวรับของมายอร์ก้าที่จับบอลพลาดลื่น ทำให้ คาริม เบนเซม่า ฉกพาบอลเข้าไปยิงด้วยขวา หนีมือ มาโนโล่ เรน่า เข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 7 มาโนโล่ เรน่า ยังไม่พลาด
จากจังหวะลูกเตะมุมของ อาเซนซิโอ้ เปิดบอลโค้งไปเสาแรก แมธทิว ฮอปป์ ยืนคุมเสาไม่ดีบอลข้ามหัวเกือบเข้าประตู แต่ต้องชม มาโนโล่ เรน่า นายด่านมายอร์ก้าบินปัดบอลออกมาได้แบบหวุดหวิด
นาทีที่ 20 มายอร์ก้า ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ คัง-อิน ไขว้จ่ายหลอก อลาบา บอลถึง ลาโก้ จูเนียร์ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงด้วยขวาแต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 24 กลายเป็น เรอัล มาดริด มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0
จากจังหวะของ โรดรีกู กอยส์ รับบอลมาในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยกหลอกแนวรับทีมเยือน ยิงมุมแคบบอลติดเซฟกระดอนมาเข้าทาง มาร์โค อาเซนซิโอ้ สอดมายิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0
นาทีที่ 25 มายอร์ก้า มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้
จากความสามารถเฉพาะตัวของ อี คัง-อิน ที่พาบอลลากหนี เอแดร์ มิลิเตา ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายหน้ากรอบบอลโค้งหนีมือ กรู์กตัวส์ เบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม เรอัล มายอร์ก้า ไล่มา 2-1
นาทีที่ 29 อาเซนซิโอ้ กดเม็ดที่สองให้ตัวเองมีลุ้นแฮตทริก
จากจังหวะของ มิลิเตา จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ คาริม เบนเซม่า ทำชิ่งเร็วให้ มาร์โค อาเซนซิโอ้ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงบอลผ่านตัว มาโนโล่ เรน่า เข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1
นาทีที่ 45 มาโนโล่ เรน่า ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ อเซนซิโอ้ ไหลบอลไปให้ วินิซิอุส ได้โอกาสยิงด้วยขวาโล่ง ๆ แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ มาโนโล่ เรน่า รับเอาไว้ได้ไม่พลาด
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ มายอร์ก้า ไปก่อน 3-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าทำให้ตุนสกอร์ไปได้ก่อนถึงสามประตู ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 50 ราชันชุดขาว ขึงเกมรุกตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
จากจังหวะของ โรดรีโก้ หลุดเข้าไปทางฝั่งขวาก่อนปาดบอลมาหน้าปากประตูให้ เบนเซม่า ได้ช่องยิงเข้าไปง่าย ๆ แต่ผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ แล้วไม่ให้ได้ประตูเนื่องจาก เบนเซม่า ไปฟาวล์ใส่แนวรับทีมเยือนก่อนแล้ว
นาทีที่ 55 อาเซนซิโอ้ ทำแฮตทริกจนได้
จากจังหวะของ เบนเซม่า ไหลบอลไปให้ อาเซนซิโอ้ รับบอลมาก่อนจะพาบอลโยกหนีแนวรับแล้วปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งหนีมือ เรน่า เข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 4-1
นาทีที่ 79 เรอัล มาดริด มาได้ประตูทิ้งห่าง 5-1
จากจังหวะของ ดาวิด อลาบา เปิดบอลจากกลางสนามไปให้ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าไปก่อนบอลกดเต็มข้อบอลไปแฉลบแนวรับมายอร์ก้าบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 5-1
นาทีที่ 84 เรอัล มาดริด มาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของ ดาวิด อลาบา เปิดบอลยาวขึ้นหน้ามาให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะปาดบอลเรียดมาหน้าปากประตูให้ อีสโก้ ยิงเข้าไปง่าย ๆ เข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำโด่ง 6-1
จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านไล่ถล่ม เรอัล มายอร์ก้า ไปแบบขาดลอย 6-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และสร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าทำให้เกมนี้ ราชันชุดขาว เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้เก็บสามแต้มขึ้นยึดตำแหน่งจ่าฝูง และทางด้าน เรอัล มายอร์ก้า มี 8 คะแนน อยู่อันดับที่ 10