เจสซี่ ลินการ์ด งัดฟอร์มแจ่มหลังตะบันสองเม็ดให้ “สิงโตคำราม” ในรอบ 3 ปี พร้อมด้วยท่าฉลองดีใจของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ อังกฤษ ไล่ถลุงต้อนเอาชนะอันดอร์ร่า ขาดลอย 4-0 เพิ่มสถิติชนะ 5 เกมติดต่อกันนำเป็นจ่าฝูง กลุ่ม ไอ ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันของ กลุ่ม ไอ นัดที่ 5 ระหว่าง จ่าฝูง อังกฤษ ที่คว้าชัยมา 4 นัดรวด 12 คะแนน กลับมาเฝ้า เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ อันดอร์ร่า ทีมรองบ๊วยของตารางที่มี 3 คะแนน
เปิดฉากเกมครึ่งแรก เกมดำเนินไปเรื่อย จนกระทั่งโอกาสลุ้นหนแรกของ “สิงโตคำราม” ต้องรอถึงนาทีที่ 17 รีซ เจมส์ แทงให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมาถึงเส้นหลังก่อนหักมาให้ บูคาโย่ ซาก้า วิ่งมาแปถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกนาทีเดียว นาทีที่ 18 แฟนบอลในเวมบลี่ย์ได้เฮกันลั่นสนั่น เมื่อทัพสิงโตคำรามทะยานนำจนได้ 1-0 บูคาโย่ ซาก้า ครอสมาหน้าประตูโดนแนวรับอันดอร์ร่าสกัดไปเข้าทาง เจสซี่ ลินการ์ด ที่เก็บได้กลางประตูซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ นาทีที่ 21 เสียงฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ แพทริก แบมฟอร์ด แทงบอลให้ เจสซี่ ลินการ์ด หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนจะโชว์ความเหนือชั้นด้วยการชิพบอลข้ามหัว โจเซ็ป โกเมส นายด่านอันดอร์ร่าส่งบอลค่อยๆกลิ้งเข้าก้นตาข่าย ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของลินการ์ดเสียก่อน นาทีที่ 35 คีแรน ทริปเปียร์ เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ แพทริก แบมฟอร์ด โขกชงเข้ากลาง บอลจะย้อนหลัง คอเนอร์ เคาดี้ ก่อนสลับขาจักรยานยิงเหินคานไปแบบหวุดหวิด อีกสองนาทีต่อมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลยาวสุดแม่นมาให้ จู๊ด เบลลิงแฮม จับบอลลงอย่างเนียนก่อนดึงจังหวะหลบแนวรับอันดอร์ร่าแล้วซัดเสาแรกเข้าข้างตาข่าย จบครึ่งแรก อังกฤษ ขึ้นนำ อันดอร์ร่า 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 47 อังกฤษ เปิดบอลยาวเข้าไปในกรอบ โจเซ็ป โกเมส ออกมาตัดบอลไม่ดีก่อนบอลจะเลยมาเข้าทาง แพทริก แบมฟอร์ด ซัลโวแบบไม่จับบอลพุ่งข้ามคานไป อีกนาทีต่อมา “สิงโตคำราม” ชวดได้เม็ดที่สองนำห่าง หลัง รีซ เจมส์ ลากตัดจากซ้ายมาหน้าประตูก่อนจะปั่นด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งกำลังจะมุดเข้าอยู่แล้วแต่ไปชนคานกระเด้งออกมา เจ้าบ้านครองบอลได้มากกว่าถึง 83% และสร้างโอกาสได้ถึง 12 ครั้งทว่าจบสกอร์กันไม่เฉียบคม ซึ่งโอกาสยิงเข้ากรอบแค่หนเดียวเท่านั้นจากลูกได้ประตูขึ้นนำ เมื่อเกมรุกไม่ได้ดั่งใจ นาที 61 แกเร็ธ เซาธ์เกต เปลี่ยนสามคนรวดส่งตัวหลักทั้ง แจ็ค กรีลิช, เมสัน เมาน์ท และแฮร์รี่ เคน ลงไปเล่นแทน จู๊ด เบลลิงแฮม, รีซ เจมส์ และแฮร์รี่ เคน นาทีที่ 71 อังกฤษ นำห่าง 2-0 จากจังหวะของ แจ็ค กรีลิช มาเรียกจุดโทษให้เจ้าถิ่นหลังเลี้ยงแหวกแนวรับอันดอร์ร่าก่อนจะโดน คริสเตียน การ์เซีย กอนซาเลซ พลักล้มผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที ก่อนที่ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมจะซัดเข้าไปไม่พลาด นาทีที่ 78 สกอร์ของ “สิงโตคำราม” หนีไปเป็น 3-0 บอลจากจาก บูคาโย่ ซาก้า จ่ายเลียดออกซ้ายให้ เจสซี่ ลินการ์ด ลากเข้าหน้ากรอบก่อนซัดหนีมือนายด่าน อันดอร์ร่า พุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่สองของปีกปีศาจแดงในเกมนี้ ท้ายเกม นาทีที่ 85 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่างเป็น 4-0 คราวนี้เป็น เจสซี่ ลินการ์ด ตอบแทน บูคาโย่ ซาก้า บ้างด้วยการจ่ายให้ปีกอาร์เซน่อลซัดเข้าไปไม่พลาด จบเกม อังกฤษ ไล่ต้อนเอาชนะ อันดอร์รา 4-0 เก็บชัยชนะ 5 นัดติดมีเพิ่มเป็น 15 คะแนน โอกาสคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ มีสูง พร้อมนำจ่าฝูงกลุ่ม ไอ ต่อไป ส่วน อันดอร์รา รั้งรองบ๊วยอันดับ 5 มีสามแต้มเหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : แซม จอห์นสตัน (GK), รีซ เจมส์ (แจ็ค กรีลิช น.61), ไทโรน มิงส์, คอเนอร์ เคาดี้, คีแรน ทริปเปียร์, จู๊ด เบลลิงแฮม (เมสัน เมาน์ท น.62), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เจสซี่ ลินการ์ด, แพทริก แบมฟอร์ด (แฮร์รี่ เคน น.62), บูคาโย่ ซาก้า
อันดอร์ร่า : โจเซ็ป โกเมส (GK), ชุส รูบิโอ, มักซ์ โยเบร่า, มาร์ค บาเลส, คริสเตียน การ์เซีย กอนซาเลซ, มอยเซส ซาน นิโกลัส (โจน เซร์บอส น.86), จอร์ดี้ รูบิโอ (มาร์ค การ์เซีย เรนอม น.74), มาร์ค เรเบส, ลูโดวิช เคลเมนต์ (อเล็กซานเดร์ มาร์ติเนซ น.74), มาร์ซิโอ บิเอร่า (ยเดฟอนส์ ลิม่า น.86), อาร่อน ซานเชซ (ริการ์ด เฟร์นานเดซ น.66)