เบนเซม่าซัดแฮตทริก!! พา “ราชันชุดขาว” รัวแซง บีโก้ ครึ่งหลัง

การแข่งขันศึกฟุตบอลลา ลีกา สเปน ระหว่าง เรอัล มาดริด ลงสนามพบกับ เซลต้า บีโก้ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-1-3-2

เกมเริ่มมาได้เพียง 4 นาที เซลต้า บีโก้ ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว

จากความผิดพลาดของแนวรับ เรอัล มาดริด เสียบอลหน้าประตูก่อนจะเป็น ยาโก้ อาสปาส จ่ายบอลให้ ซานติ มีน่า หลุดเข้าไปยิงลอดขา เอแดร์ มิลิเตา ผ่าน ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ เซลต้า บีโก้ ออกนำ 0-1

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาทีที่ 7 “ราชันชุดขาว” ได้ลุ้นจากลูกนิ่ง

จากลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ ลูก้า โมดริช เปิดบอลเข้าเขตโทษบอลมาถึง วินิซิอุส จูเนียร์ สอดมาโหม่งที่เสาแรก แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ มาติอัส ดิตูโร่ บินปัดบอลออกไปได้แบบหวุดหวิด

นาทีที่ 13 “ราชันชุดขาว” พยายามเร่งเครื่องบุกทวงประตูคืน

จากจังหวะของ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้ามาในเขตโทษก่อนจ่ายบอลย้อนมาให้ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ วิ่งมาแปด้วยขวาบอลยังแรงเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

นาทีที่ 24 เรอัล มาดริด ตามตีเสมอเอาจนได้

จากจังหวะของ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ เติมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้าเขตโทษไปเสาไกลถึง มิเกล กูเตียร์เรซ จ่ายบอลเข้าในย้อนมาให้ คาริม เบนเซม่า วิ่งมายิงด้วยขวาบอลพุ่งกระดอนพื้นไปติดปลายมือ มาติอัส ดิตูโร่ ปัดไปชนใต้คานเด้งซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ไล่มา 1-1

นาทีที่ 32 เซลต้า บีโก้ ไม่ยอมแพ้ซัดประตูแซงขึ้นนำอีกครั้ง

จากจังหวะสวนกลับไวของ อูโก้ มาโย่ กระชากบอลแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนามก่อนจะพาเข้าเขตโทษจ่ายต่อไปให้ ฟรานโก้ เซอร์วี่ โฉบมาไขว้บอลกระเด้งไปโดนเสากลับมาเข้าทางตามซ้ำอีกรอบไม่พลาด เซลต้า บีโก้ พลิกนำ 1-2

นาทีที่ 39 เรอัล มาดริด พลาดโอกาสสำคัญ

จากลูกสูตรฟรีคิก ลูก้า โมดริช ขยับมารับบอลก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ โหม่งชงเข้าในบอลถึง คาริม เบนเซม่า ทิ้งตัวโหม่งส่งบอลเข้าประตูตุงตาข่ายไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็ค วีเออาร์ กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ตามหลัง เซลต้า บีโก้ อยู่ที่ 1-2 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้ายกลายเป็น เซลต้า บีโก้ ที่เฉียบคมกว่าทำประตูชิงความได้เปรียบไปก่อน ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

เริ่มครึ่งหลังไม่ถึงนาที “ราชันชุดขาว” ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว 

จากจังหวะของ มิเกล กูเตียร์เรซ ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้าเขตโทษมาให้ คาริม เบนเซม่า ขึ้นโขกบอลผ่านหน้า มาติอัส ดิตูโร่ เสียบใต้คานเข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ไล่มา 2-2

นาทีที่ 54 เรอัล มาดริด พลิกแซงนำจนได้

จากจังหวะของ คาริม เบนเซม่า ถอยลงมาต่ำก่อนจ่ายบอลเร็วให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเดี่ยวขึ้นมาทางฝั่งซ้ายพาบอลจี้เข้าเขตโทษดึงจังหวะแปผ่าน มาติอัส ดิตูโร่ เสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม เรอัล มาดริด พลิกนำ 3-2

นาทีที่ 65 เซลต้า บีโก้ เกือบมาพลาดง่าย ๆ 

จากจังหวะแนวรับเซลต้า บีโก้พยายามจะโหม่งคืนหลังแต่บอลเบาโดน วินิซิอุส จูเนียร์ แย่งไปได้ก่อนจะแต่งบอลจนได้ช่องยิงหักข้อด้วยขวา แต่บอลก็ยังไปติดเท้า มาติอัส ดิตูโร่ ล้มตัวเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 72 เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

จากความสามารถเฉพาะตัวของ ลูก้า โมดริช กระชากพาบอลแหวกเข้าเขตโทษก่อนได้ช่องดีดไซค์ก้อยบอลไปติดเซฟ มาติอัส ดิตูโร่ กระดอนออกมาเข้าทาง เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ตามซ้ำเข้าไปไม่พลาด เรอัล มาดริด นำห่าง 4-2

นาทีที่ 87 เรอัล มาดริด มาได้ประตูปิดกล่อง

จากจังหวะของ เดนีส ซัวเรซ เสียเหลี่ยมไปยกขาดัก วินิซิอุส จูเนียร์ ที่กำลังจะหลุดเข้าไปยิงร่วงลงไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดและเป็นแฮตทริกของเจ้าตัว

จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ เซลต้า บีโก้ ไปได้ 5-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และสร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าทำให้เกมนี้เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ เรอัล มาดริด มี 10 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน เซลต้า บีโก้ มี 1 คะแนน อยู่อันดับที่ 18