“เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มโคตรดุ!! บุกมาอัด นอริช พังคาบ้าน 0-4

การแข่งขันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง นอริช ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3

เกมเริ่มมาได้ 3 นาที เรือใบสีฟ้า ได้บุกทักทายก่อน

จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ หยอดบอลข้ามผู้เล่นเจ้าบ้านมาให้ ฟิล โฟเด้น สอดมาจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงทีแรกไปติดตัว แองกัส กันน์ นายด่านนอริชบอลมาเข้าทางซ้ำส่งบอลกองก้นตาข่าย แต่เจ้าตัวล้ำหน้าไปแล้ว

นาทีที่ 5 เกมรุกยังเป็นของ แมนซิตี้

จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ เก็บบอลริมกรอบเขตโทษด้านขวาจ่ายเข้ามาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โยกหลบแนวรับเจ้าบ้านกดเต็มข้อบอลพุ่งไปชนเสาอีกฝั่งอย่างจัง กระดอนเข้าซอง แองกัส กันน์ รับเอาไว้ได้

นาทีที่ 8 เรือใบสีฟ้า บุกกดดันอย่างหนัก

จากจังหวะของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลุดขึ้นทางริมเส้นด้านซ้ายวางบอลไปให้ อิลคาย กุนโดกัน ขึ้นโหม่งสะบัดตามน้ำ บอลยังเบาตรงตัว แองกัส กันน์ นายด่านเจ้าบ้าน

นาทีที่ 18 เจ้าบ้านได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง

จากจังหวะของ ตีมู ปุ๊กกี้ ไหลบอลย้อนไปให้ ปิแอร์ ลีส์ เมลู เปิดบอลเข้ามากลางเขตโทษให้ แกร้นท์ แฮนลี่ย์ ดันสูงช่วยเกมบุกเข้ามาโหม่งเต็ม ๆ บอลผ่านมือ เอแดร์ซอน ชนเสาขวากระดอนออกมาแบบได้เสียว

นาทีที่ 25 แองกัส กันน์ ยังตำแหน่งได้ดี

จากจังหวะของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ปาดบอลเรียดเข้ามากลางเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงบอลเน้น ๆ แต่ยังไม่ห่างตัว แองกัส กันน์ ใช้เท้าเคลียร์ทิ้งอีกครั้ง

นาทีที่ 31 เรือใบสีฟ้า ทะยานขึ้นนำจนได้

จากจังหวะของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ลากบอลเปิดบอลข้ามฟากไปทางฝั่งให้ซ้าย แม็กซ์ แอรอนส์ สกัดไม่ดีกลายเป็นเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เก็บบอลได้โยกปั่นโค้งบอลเสียบตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 33 แมนซิตี้ ยังขึงเกมรุกบุกกดดัน

จากจังหวะของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เก็บบอลได้จากการโหม่งสกัดของแนวรับเจ้าถิ่น จ่ายสั้นออกขวาในเขตโทษ ริยาด มาห์เรซ ได้ยิงแบบไร้ตัวประกบ แต่ แองกัส กันน์ ยืนปิดมุมทุบทิ้งออกมาได้ทันเวลา 

จบครึ่งแรก นอริช ซิตี้ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ที่ 0-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่าจนสามารถชิงทำประตูออกนำไปได้ก่อน ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วง 45 นาทีหลัง

นาทีที่ 48 เรือใบมาได้เม็ดที่สองตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

จากจังหวะของ สเตอร์ลิ่ง จ่ายบอลสั้นมาให้ อิลคาย กุนโดกัน สอดมาไหลบอลมาลุ้นหน้าประตูให้ ฟิล โฟเด้น วิ่งเข้ามายิงบอลยังไปติดแนวรับเจ้าบ้าน บอลไม่ไปไหนฟิล โฟเด้น ซ้ำลอดขา แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แม้ แกร้นท์ แฮนลี่ย์ พยายามเคลียร์พ้นเส้นแต่ไม่ทัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 2-0

นาทีที่ 70 สเตอร์ลิ่ง ซัดเพิ่มให้ทีมอีกประตู

จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น บรรจงวางบอลไปหา รูเบน ดิอาส ขึ้นโหม่งชงมาหน้าประตูทางเสาขวา และเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สอดมาซ้ำส่งบอลเข้าประตูไปไม่พลาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 3-0

นาทีที่ 89 ทีมเยือนมาได้ลูกจุดโทษ

จากการทำฟาวล์ของ แกร้นท์ แฮนลี่ย์ ไปเข้าสกัดใส่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ล้มเลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันทีก่อนจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รับหน้าที่ยิงบอลไปติดเซฟ แองกัส กันน์ บอลยังเป็นใจกลิ้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงซ้ำโล่ง ๆ ทำแฮตทริกได้สำเร็จ 

จบเกม นอริช ซิตี้ แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 0-4 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าและสร้างสรรค์เกมรุกได้ดันกว่าทำให้เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 63 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน นอริช ซิตี้ มี 17 คะแนน อยู่อันดับที่ 18