“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ครองจ่าฝูงของกลุ่ม อี ต่อไปแบบหล่อๆ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังเปิดบ้านยำใหญ่ ดินาโม เคียฟ 5-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นคนเปิดสองสกอร์แรก ส่วน เอริค มักซิม ชูโป-โมติง โขกปิดท้าย
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง บุนเดสลา เยอรมัน ยังคงทำผลงานได้ดีต่อเนื่อ หลังเปิดรัง ไล่ถล่ม ดินาโม เคียฟ ทีมดังจากยูเครน 5-0 ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ “เสือใต้” ออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 12 จากการสังหารลูกจุดโทษเข้าไปนิ่มๆ ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลังจากที่ เซอร์เก ซิดอร์ชุค กัปตันทีมเยือน ทำแฮนด์บอล หลังจากนั้นในนาทีที่ 27 โธมัส มุลเลอร์ แอสซิสต์เน้นๆ ให้ เลวานดอฟสกี้ ยิงด้วยขวา ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด ทำให้ บาเยิร์น หนีเป็น 2-0 พร้อมกับเป็นประตูที่สองของยอดดาวยิงเลือดโปล ต่อมาในนาทีที่ 35 พวกเขามีโอกาสได้สกอร์เพิ่มอีก แต่ ลีรอย ซาเน่ ยิงชนเสาอย่างน่าเสียดาย
เกมครึ่งหลังในนาทีที่ 68 บาเยิร์น นำห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ซาเน่ ผ่านบอลให้ แซร์จ นาบรี้ ที่พาบอลเข้าไปซัดเสียบใต้คานอย่างสุดสวย และในนาทีที่ 74 สกอร์เปลี่ยนเป็น 4-0 จากการเปิดบอลผิดเหลี่ยมแต่กลายเป็นดีของ ซาเน่ เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 87 บาเยิร์น มาได้ประตูปิดท้าย 5-0 จากการโขกสุดสวยของ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง หัวหอกสำรอง ที่ลงไปแทน เลวานดอฟสกี้
ชัยชนะนัดนี้นอกจากทำให้ บาเยิร์น ของกุนซือ ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม อี ด้วยการมี 6 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 2 นัดแล้ว ยังทำให้พวกเขาคว้าชัยรวมทุกรายการ 9 นัดติด พร้อมกระทุ้งประตูใส่คู่แข่งรวมกันถึง 45 ลูก และเสียแค่ 5 ลูกเท่านั้น นอกจากนี้ในปี 2021 เลวานดอฟสกี้ ทำประตูให้สโมสรและทีมชาติ (โปแลนด์) รวมกันแตะหลัก 50 ลูกพอดี ซึ่งมากกว่าทุกคน พร้อมเพิ่มสถิติการทำประตูในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็น 77 ลูก (จาก 98 เกม) ซึ่งมีแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (136) กับ ลิโอเนล เมสซี่ (121) ที่ยิงได้มากกว่า