นีล โมเปย์ ควง แดนนี่ เวลเบ็ค ทำคนละประตู พา ไบรท์ตัน เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ส่งผลให้ “นกนางนวล” เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน แซงขึ้นไปรั้งรองอันดับ 3 ขณะที่ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” พ่าย 2 เกมติด หล่นไปอยู่ที่ 12 ของตาราง โดยเกมนี้ ทีมเยือนโดนวีเออาร์ ริบ 2 ประตู
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ที่สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เป็นการพบกันของ ไบรท์ตัน กับ เลสเตอร์ ซิตี้
ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกมา 10 นาที ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นจบสกอร์ไปแล้ว 2 ครั้งจาก เจมี่ วาร์ดี้ และ ยูริ ตีเลมันส์ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ตรงกรอบ ทำให้ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 ต่อมาในนาทีที่ 20 โยเอล เฟลท์มัน ได้โอกาสจ่ายบอลให้ โซลลี่ มาร์ช ก่อนได้จังหวะยิงไกลบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ยังเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่ใช้ขาเซฟบอลออกมาได้ นาทีที่ 26 มาร์ก กูกูเรย่า ได้โอกาสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ที่สะกัดบอลออกมาไม่ดี บอลไปเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า ได้จังหวะล็อคหนึ่งครั้ง ก่อนยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคาน นาทีที่ 31 ไบรท์ตัน ออกนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากจังหวะของ เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดเตะมุมเข้าไป แล้วเป็น เชน ดัฟฟี่ ที่ได้โหม่งแต่บอลไปติดมือของ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ก่อนที่ผู้ตัดสินจะปรึกษากับวีเออาร์แล้ว ชี้เป็นจุดโทษ แล้วเป็น นีล โมเปย์ ที่รับหน้าที่ยิงผ่านมือของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าประตูไป เกมดำเนินถึงนาทีที่ 42 เลอันโดร ทรอสซาร์ จ่ายบอลมาให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้โอกาสยิงไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับเอาไว้ได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ไบรท์ตัน นำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
กลับมาต่อครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ทำชิ่งกับ บูบาการี่ ซูมาเร่ ก่อนที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จะเลี้ยงบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่บอลไปติดกองหลังเจ้าถิ่น ก่อนที่ เจมี่ วาร์ดี้ จะตามไปฉกบอล แล้วได้จังหวะยิงแต่ไปติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดออกไปได้ หลังจากนั้นอีก 2 นาที ไบรท์ตัน นำห่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกทางฝั่งขวาก่อนเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่รับหน้าที่เปิดเข้ามาแล้วเป็น แดนนี่ เวลเบ็ค ที่สอดขึ้นมาโหม่ง ส่งบอลเข้าประตูไป เกมดำเนินถึงนาทีที่ 60 เลสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตาม ไบรท์ตัน 1-2 ริคาร์โด้ เปเรยร่า ทำชิ่ง บูบาการี่ ซูมาเร่ ทางฝั่งขวาก่อนที่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า จะส่งบอลต่อมาให้ ยูริ ตีเลมันส์ ได้เปิดบอลโล่งๆในกรอบเขตโทษ มาหน้าปากประตูก่อนเป็น เจมี่ วาร์ดี้ ที่สอดขึ้นมายิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป นาทีที่ 67 ทีมเยือนได้โอกาสเตะมุม ก่อนที่บอลจะเลยมาถึง อเดโมล่า ลุคแมน ได้จังหวะยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเช็กกับวีเออาร์ ก่อนยันยันเป็นจังหวะล้ำหน้า หลัง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ไปยืนบังผู้รักษาประตูในจุดที่ล้ำหน้า นาทีที่ 85 ทีมเยือนได้เตะมุมก่อนเป็น ยูริ ตีเลมันส์ เปิดบอลเข้ามาให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่ได้โหม่งส่งบอลเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า หลัง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ไปขว้างทางการเล่นของผู้รักษาประตู และ วีเออาร์ก็เช็กจังหวะดังกล่าวก่อนยืนยันเป็นจังหวะล้ำหน้า ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน ไบรท์ตัน เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ส่งผลให้ “นกนางนวล” เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน แซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” พ่าย 2 เกมติด หล่นไปอยู่ที่ 12 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไบรท์ตัน : โรเบิร์ต ซานเชซ (GK), โยเอล เฟลท์มัน, เชน ดัฟฟี่, ลูอิส ดังค์ ; โซลลี่ มาร์ช, อดัม ลัลลาน่า, อีฟส์ บิสซูม่า, มาร์ก กูกูเรย่า, เลอันโดร ทรอสซาร์, นีล โมเปย์, แดนนี่ เวลเบ็ค
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ซากลาร์ โซยุนชู, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ (ทิโมธี คาสตานเญ่ทิโมธี คาสตานเญ่ น.68), ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาการี่ ซูมาเร่ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.75), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจมี่ วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน (อเดโมล่า ลุคแมน น.46)