ทัพ “ช้างศึก” ปรับแผนทีมงานโค้ช “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ดูแลทีมชุด ยู-23 เต็มตัว เหตุคุ้นเคยกับนักเตะดี เพราะรายชื่อที่ลิสต์ออกมาส่วนใหญ่ต่อยอดมาจากชุด ยู-19 ที่เคยคุม ชี้เหมาะเป็นคนวางแผนงานทั้งหมดก่อนลุยคัดยู-23 เอเชียที่มองโกเลีย ด้าน “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด เตรียมเก็บข้อมูลแข้งชุดใหญ่ ระหว่าง ส.ลูกหนังไทย ยังไม่ตั้งโค้ชคนใหม่เข้ามา
หลังจากที่ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด รักษาการกุนซือทีมชาติไทย โดยมี “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ได้ลิสต์รายชื่อ 60 คนที่จะส่งให้กับสโมสรต้นสังกัดพิจารณาปล่อยตัวนักเตะ เพื่อเตรียมทีมลุยศึกฟุตบอล “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022” รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 23-31 ต.ค.64
ล่าสุด โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงแผนงานต่อจากนี้ว่า “ทีมในชุด 23 ปี เราจะใช้นักเตะที่ต่อรุ่นมาจากทีมเยาวชน 19 ปี ซึ่งตรงนี้โค้ชหระมีความคุ้นเคย เนื่องจากผ่านการคุมนักเตะเหล่านั้นมาแล้ว ดังนั้นเพื่อให้การทำงานง่ายขึ้น จากนี้โค้ชหระจะเป็นคนวางแผนงานทั้งหมดในการเตรียมทีมสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในส่วนของรายชื่อผู้เล่น จากนี้สมาคมฟุตบอลคงจะทำหนังสือแจ้งไปยังสโมสรต่อไปว่า เราจะเรียกตัวเข้าแคมป์ฝึกซ้อม แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนในการพูดคุยระหว่างสมาคมฟุตบอลกับศบค. ว่าจะสามารถเข้าแคมป์ฝึกซ้อมได้หรือไม่ และจะเป็นสถานที่ใด
“โค้ชจุ่น” ยังพูดถึงแผนงานของทีมชุดใหญ่ด้วยว่า “ตัวผมเองก็จะทำหน้าที่เตรียมความพร้อมในการเก็บข้อมูลนักเตะชุดใหญ่ ในระหว่างที่สมาคมฟุตบอลยังไม่ได้แต่งตั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ โดยจะเป็นการตามดูว่ามีนักเตะคนใดอยู่ในข่ายที่สามารถก้าวขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ได้บ้าง รวมถึงนักเตะชุดเดิมใครฟอร์มดี หรือหลุดจากมาตรฐานเดิมของตัวเองบ้าง
อย่างไรก็ตามสำหรับทีมชุดใหญ่คงต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมอีกครั้งว่า ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในช่วงปลายปีนั้นจะจัดแข่งขันแบบใด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะจัดที่สนามกลางเหมือนกับฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก และหากเลือกใช้สนามกลางคงอาจจะเป็นในประเทศตะวันออกกลางหรือไม่ อย่างเช่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นไปได้หมด
สำหรับศึกฟุตบอล “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022” รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 23-31 ต.ค.64 ซึ่งในกลุ่มของไทย จะมีการจับสลากเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 11 ส.ค.64 จากกรณีที่เกาหลีเหนือได้ขอถอนตัวออกไป ทำให้ 2 ทีมก่อนหน้านี้ที่อยู่กลุ่มเดียวกับทัพ “ช้างศึก” ทั้งมาเลเซีย และ สปป.ลาว อาจจะต้องไปอยู่กลุ่มอื่นแทน