เกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก ระหว่าง สเปอร์ส โดยโชเซ่ มูรินโญ่ นำลูกทีมลงสนามในระบบ 4-2-3-1 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จัดสามประสานเป็น ริยาด์ มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และเฟร์ราน เล่นในระบบ 4-3-3
โอกาสแรกของ ซน ฮึง-มิน ซัดประตูนำ
เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ออกนำไปก่อน จากจังหวะฟรีคิกกลางสนาม ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก เล่นเร็วส่งให้ ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ เปิดบอลข้ามแนวรับให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายเลียดลอดขา เอแดร์ซอน โมราเอส สเปอร์สขึ้นนำไว 1-0
เจ้าบ้านเกือบนำห่าง
นาทีที่ 14 ได้ลุ้นจากจังหวะที่ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ รับบอลก่อนส่งต่อให้กับ ซน ฮึง-มิน ด้านขวาและปาดไปหน้ากรอบให้ แฮร์รี่ เคน ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่น่าเสียดายที่เป็นจังหวะล้ำหน้าทำให้ไม่ได้ประตู
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้โอกาสบ้างแต่ยังไม่ดีพอ
นาทีที่ 16 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นจากฟรีคิกโดย เควิน เดอ บรอยน์ โยนบอลไปหน้ากรอบให้ โรดรี้ ขึ้นโขกเต็มหัวแต่บอลยังไปตรงตัว อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตู สเปอร์สรับไว้ได้
VAR ช่วยสเปอร์สเอาไว้
นาทีที่ 27 จากที่ โรดริโก้ เอร์นานเดซ กาสกานเต้ เปิดบอลเข้าไปในกรอบ บอลถึง กาเบรียล เชซุส ส่งบอลต่อให้กับ อายเมอริก ลาป๊อร์ก ซัดเต็มข้อเสียบมุมเข้าประตูไปแล้ว แต่แข้งสเปอร์สฟ้องว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ กาเบรียล เชซุส ก่อนที่ ผู้ตัดสินจะขอเช็ค VAR ข้างสนาม และเป่าไม่ให้ประตูแก่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากบอลไปโดนแขนของ กาเบรียล เชซุส ก่อน สเปอร์ส นำอยู่ 1-0
แมนฯ ซิตี้ บุกหนักหวังได้ประตูคืนก่อนหมดครึ่งแรก
นาทีที่ 40 ได้ลุ้นจาก เฟร์ราน ตอร์เรส เลี้ยงเข้าไปหน้ากรอบโดยเบียดล้มลงไปแต่ไม่ฟาวล์และเป็น ริยาด มาห์เรซ เก็บตกได้ก่อนยกบอลข้าม เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ล้มอยู่บอลขลุกขลิกบอลปลิ้นมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส กดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
จบครึ่งแรกเป็น เจ้าบ้านสเปอร์สที่ออกนำไวไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 5 ของ ซน ฮึง-มิน ผลัดกันรับผลัดกันรุกได้อย่างสนุก ครึ่งหลังต้องมาดูว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะแก้เกมต่อไปอย่างไร
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเร่งเครื่องเดินหน้าหาประตูตีเสมอ
นาทีที่ 52 แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ โรดรี้ จ่ายขึ้นหน้าให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจะลากไปซัดหน้ากรอบเขตโทษกว่า บอลพุ่งเลียดหลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย นิดเดียวจริงๆ
เกมสวนกลับเร็วของ สเปอร์ส ได้ผล
นาทีที่ 65 เป็นจังหวะที่ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ สกัดบอลได้บริเวณหน้าประตู เปิดทิ้งมาข้างหน้าเข้าทาง แฮร์รี่ เคน กระชากขึ้นมาก่อนไหลออกซ้ายให้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ยิงลอดขา เอแดร์ซอน โมราเอส ส่งบอลซุกก้นตาข่าย สเปอร์ส นำห่าง 2-0
ราฮีม สเตอร์ลิง พยายามหาประตูตีไข่แตก
นาทีที่ 83 ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บได้ก่อนซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไป
รูเบน ดิอาส เกือบแก้หน้าให้กับ เรือใบ ได้
นาทีที่ 90+1 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ได้เปิดฟรีคิกเข้ามาให้ รูเบน ดิอาส บริเวณในเขตโทษขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ อูโก้ โยริส ช่วยสเปอร์สเซฟเอาไว้ได้
จบเกมเป็น สเปอร์สที่เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 2-0 หลังจากออกนำไวสเปอร์สก็เน้นเกมรับและทำได้ดีสามารถต้านทานเกมบุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อยู่หมัดอัตราการครองบอลของสเปอร์สก็เป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สามารถจบสกอร์ได้เฉียบคม ทำให้คว้า 3 แต้มได้ สเปอร์สขึ้นเป็นจ่าฝู่งอยู่มี 20 คะแนน และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับที่ 11 มี 12 คะแนน
เกมนัดถัดไปของ สเปอร์ส เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลูโดโกเรต์ส รัซกราด ในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2020 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเยือน โอลิมเปียกอส ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2020