การแข่งขันในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” นัดแรก กลุ่ม เอฟ ระหว่าง ฝรั่งเศส ลงสนามพบกับ เยอรมัน เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-1-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-2-1
เกมเริ่มมาได้ 4 นาที “อินทรีเหล็ก” ได้ทักทายก่อน
จากลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวาของ โทนี่ โครส เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลถึง มัตส์ ฮุมเมลส์ ได้ขึ้นโหม่งแต่ไปโดนใต้บอลเหินข้ามคานหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 15 ฝรั่งเศส ได้ตอบโต้บ้าง
จากจังหวะประสานงานสุดสวย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลออกขวามาให้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ หลุดขึ้นมาปาดเรียดเข้าเขตโทษแต่บอลยังติดบล็อค มัทธีอัส กินเตอร์ แหย่เท้าสกัดทิ้งออกหลังได้หหวุดหวิด
จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อ็องตวน กรีซมันน์ ปั่นบอลโค้งเข้าเขตโทษบอลมาถึง ปอล ป็อกบา ขึ้นได้ดีกว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แต่โหม่งกดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 18 “ตราไก่” เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้
จากความสามารถเฉพาะตัวของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เก็บบอลในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนลากตัดเข้าในปั่นด้วยขวาหนีบล็อค มัทธีอัส กินเตอร์ แต่ยังไปติดปลายมือ มานูเอล นอยเออร์ ปัดทิ้งไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 20 ฝรั่งเศส ทะยานขึ้นนำจนได้
จากจังหวะของ ปอล ป็อกบา ขึ้นบอลมาทางฝั่งเปิดบอลติดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ จ่ายยัดเข้าในไปแฉลบหน้าขา มัตส์ ฮุมเมลส์ สกัดไม่ดีเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไปเรียบร้อย ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0
นาทีที่ 21 “อินทรีเหล็ก” ได้สวนกลับทันควัน
จากจังหวะบอลชุลมุนหน้าประตูบอลไหลออกมาทางฝั่งซ้ายเข้าทาง โรบิน โกเซนส์ หยอดย้อนเข้าไปให้ โธมัส มุลเลอร์ โขกเปลี่ยนทางแต่โดนไม่เต็มลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 38 อิลคาย กุนโดกัน เกือบซัดประตูตีเสมอให้ทีม
จากจังหวะของ โรบิน โกเซนส์ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดยัดเข้าในบอลไปแฉลบบล็อค แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ มาเข้าทาง แซร์ช นาบรี จ่ายบอลต่อมาให้ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งเข้ามายิงด้วยขวาแต่โดนไม่เต็มบอลกระดอนพื้นหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งเวลาแรก ฝรั่งเศส ออกนำ เยอรมัน ไปก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านฝรั่งเศสที่ทำได้เหนือกว่านิดหน่อยชิงพังประตูออกนำไปได้ก่อน ต้องมาติดตามกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 52 เริ่มครึ่งหลังมา “ตราไก่” เดินหน้าบุกกดดัน
จากจังหวะของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดีดไซค์ก้อยตัดแนวรับออกซ้ายทะลุช่องไปให้ อาเดรียง ราบิโอต์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงยัดเสาแรกโชคไม่ดีไปชนเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 54 เยอรมัน พยายามบุกเข้าใส่
จากจังหวะของ โรบิน โกเซนส์ เปิดบอลเข้าเขตโทษข้ามหัว เปรสแนล คิมเป็มเบ้ ลึกมาเสาไกลถึง แซร์ช นาบรี วางเท้ายิงด้วยขวาบอลกระดอนพื้นผ่านมือ อูโก้ โยริส เฉี่ยวคานออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 66 แฟนบอล ฝรั่งเศส หวิดได้เฮ
จากจังหวะของ ปอล ป็อกบา จ่ายบอลออกซ้ายให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนดึงจังหวะปั่นด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เช็ดโคนเสาไกลตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
นาทีที่ 78 “ตราไก่” เกือบมาได้จุดโทษ
จากจังหวะความเร็วของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากบอลหนี มัตส์ ฮุมเมลส์ หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายโดน มัตส์ ฮุมเมลส์ เข้าสกัดอย่างแม่นยำ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ร่วงลงไป ผู้ตัดสินไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ
นาทีที่ 85 ฝรั่งเศส เกือบมาได้ประตูย้ำชัย
จากจังหวะสวนกลับของ ปอล ป็อกบา จ่ายบอลออกขวาให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากขึ้นหน้ามาก่อนจ่ายไปเสาไกลให้ คาริม เบนเซม่า เข้าชาร์จจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่พลาด แต่ผู้ตัดสินได้รับสัญณานจากห้องวีเออาร์ก่อนริบสกอร์คืนเนื่องจาก เอ็มบั๊ปเป้ ยืนล้ำหน้าไปก่อน
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ เยอรมัน ไปได้ 1-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง เยอรมัน ที่ทำได้ดีกว่าและหาจังหวะเข้าจบสกอร์ได้มากกว่าแต่ยังขาดความเฉียบคมทำให้ ฝรั่งเศส คว้าสามแต้มไปได้ก่อน
เกมนัดถัดไป ฝรั่งเศส ลงสนามพบกับ ฮังการี ในวันที่ 19 มิถุนายน 2021 และทางด้าน เยอรมัน ลงสนามพบกับ โปรตุเกส ในวันที่ 19 มิถุนายน 2021