การแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ระหว่าง ลิเวอร์พูล ลงสนามพบกับ แอตเลติโก มาดริด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-2-1
เกมเริ่มมาได้ 13 นาที ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลอย่างแม่นยำไปให้ ดิโอโก้ โชต้า ได้ตั้งหัวโหม่งเน้น ๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แบบที่ ยาน โอบลัค นายประตูทีมเยือนหมดสิทธิ์ป้องกัน ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
นาทีที่ 21 หงส์แดงบวกเพิ่มอีกตุง
จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไหลตั้งมาให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้โอกาสซัดเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษ และเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่สอดเข้ามาแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอล ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือ ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0
นาทีที่ 36 สถานการณ์ของ แอต. มาดริด แย่ลงไปอีก
จากจังหวะของ เฟลิเป้ ตั้งใจทำฟาวล์ตัดเกมใส่ ซาดิโอ มาเน่ ที่กำลังจะสวนกลับไว ผู้ตัดสินมองว่าเป็นการตัดเกมที่อันตรายไม่มีทางเลือกต้องเป่าให้เป็นใบแดงทันที ตราหมี เหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม
นาทีที่ 41 ยาน โอบลัค ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ คอนสแตนตินอส ซิมิกาส เปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าปากประตูเป็น ดิโอโก้ โชต้า ที่โฉบเข้ามาโหม่งแต่ก็ยังไปตรงตัว ยาน โอบลัค ปัดบอลทิ้งออกมาได้หวุดหวิด
นาทีที่ 43 “หงส์แดง” เล่นง่ายขึ้นมีลุ้นจบสกอร์ท้ายครึ่ง
จากจังหวะของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โอกาสยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ยาน โอบลัค ยังช่วยป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ แอตเลติโก มาดริด ไปก่อน 2-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและกดดันแนวรับได้ดีกว่าทำให้ชิงทำประตูนำห่างไปได้ถึงสองลูกแถมยังมีได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นอีก ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 48 ติอาโก้ โชต้า พลาดลูกที่สองของตัวเอง
จากจังหวะของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ดิโอโก้ โชต้า รับบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนจะมองว่าจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน
นาทีที่ 51 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกือบได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
จากจังหวะของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะกระชากเข้าเขตโทษก่อนจะยิงด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่าน ยาน โอบลัค ช่วยเซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 57 แอตเลติโก มาดริด พลาดประตูตีไข่แตก
จากจังหวะลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนามก่อนบอลจะมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ ได้โอกาสวางเท้ายิงนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบ มาติป เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แต่น่าเสียดายผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนจะมองว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ไปได้ 2-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำได้ดุดันมากกว่าทำให้เกมนี้เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล การันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม บี แน่นอนแล้ว โดยมี 12 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 4 ส่วนทางด้าน แอตเลติโก มาดริด อยู่ที่สาม มี 4 แต้ม