การแข่งขันศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดีระหว่าง ยูเครน ลงสนามพบกับ ฝรั่งเศส เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2
เกมเริ่มมาได้ 3 นาที ยูเครน ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล พลาดเสียบอลในแดนก่อนจะเป็น อังเดร ยาร์โมเลนโก้ พาบอลลุยจี้เข้าหาเขตโทษก่อนจะได้ช่องยิงด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างหวุดวหวิด
นาทีที่ 10 “ตราไก่” ได้ตอบโต้บ้าง
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ อ็องตวน กรีซมันน์ เปิดบอลเข้ามาลุ้นหน้าปากประตูบอลถึง ปอล ป็อกบา ได้โหม่งบอลไปแฉลบแนวรับ ยูเครน ลอยไปเข้ามือ อังเดร เปียตอฟ รับไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 19 ยูเครน เกือบมาได้ประตูขึ้นนำ
จากจังหวะของ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ กระชากบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลบอลมาเข้าทาง โรมัน ยาเรมชุค ยิงตามน้ำบอลยังเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 27 ฝรั่งเศส ลุยสวนขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ ปอล ป็อกบา วางบอลเข้ามาในเขตโทษไปให้กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล โหม่งต่อให้ อ็องตวน กรีซมันน์ ยิงเน้นบริเวณเส้นเขตโทษบอลกระดอนพื้นผ่านมือ อังเดร เปียตอฟ หลุดเสาไกลไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 35 ยูเครน พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลลึกมาเสาไกลเข้าทาง อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้โอกาสยิงเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไปติดเซฟ อูโก้ โยริส ปัดไปโดน เคิร์ต ซูม่า เด้งมาเข้าทาง อิลิย่า ซาบาร์นยี่ ได้หวดจ่อ ๆ หน้าปากประตูแต่บอลกลับข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 43 ฝรั่งเศส พยายามเร่งเครื่อง
จากจังหวะของ ปอล ป็อกบา ทำชิ่งกับ อ็องตวน กรีซมันน์ ก่อนจ่ายทะลุช่องไปให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงด้วยขวาแต่บอลยังไปติดเท้า อังเดร เปียตอฟ เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 44 ยูเครน ทะยานออกนำจนได้
จากความสามารถเฉพาะตัวของ โรมัน ยาเรมชุค กระชากบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายเข้าในบอลไปติด เคิร์ต ซูม่า แต่เจ้าตัวสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลโค้งผ่านมือ อูโก้ โยริส เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ยูเครน ออกนำ 1-0
จบครึ่งเวลาแรก ยูเครน ออกนำ ฝรั่งเศส ไปได้ก่อน 1-0 รูปเกมทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันได้อย่างสนุกผลัดกันลุ้นจบสกอร์อยู่ตลอดแต่กลายเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่เฉียบคมมากกว่าชิงทำประตูขึ้นนำไปได้ก่อน ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 50 ฝรั่งเศสทวงประตูคืนทันควัน
จากจังหวะของ คิงส์ลี่ย์ โกมัน พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ อาเดรียง ราบิโอต์ โฉบมาโหม่งบอลไปติดหลังแนวรับ ยูเครน กระดอนมาเข้าทาง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดเต็มข้อบอลพุ่งแรงซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่พลาด ฝรั่งเศส ไล่มา 1-1
นาทีที่ 63 ฝรั่งเศส เดินหน้าลุยกดดันต่อเนื่อง
จากจังหวะของ คิงส์ลี่ย์ โกมัน พาบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลเข้าเขตโทษไปให้ อ็องตวน กรีซมันน์ ได้โอกาสยิงด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 77 “ตราไก่” พลาดประตูสำคัญ
จากจังหวะของ คาริม เบนเซม่า เก็บบอลได้ในเขตโทษจ่ายย้อนมาให้ มุสซ่า ดิยาบี้ พาบอลแหวกหนีแนวรับ ยูเครน ก่อนได้ช่องยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสาเด้งเต็ม ๆ ก่อนจะเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
จบเกม ยูเครน เสมอกับ ฝรั่งเศส อยู่ที่ 1-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางด้านฝรั่งเศสที่ทำเกมได้เหนือกว่าแต่ขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะเข้าทำสุดท้าย ทำให้จบลงด้วยผลเสมอ แบ่งแต้มกันไปส่งผลให้ ฝรั่งเศส มี 9 คะแนนอยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน ยูเครน มี 5 คะแนนอยู่อันดับที่ 3