พรีเมียร์ลีก เวลา : 22.30 น. เชลซี (-) -vs- ลิเวอร์พูล (-) ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25(-5)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : เชลซี (-) -vs- ลิเวอร์พูล (-)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 22.30 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

05/04/23 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
21/01/23 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0
14/05/22 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0 / (กลาง) เอฟเอ คัพ
28/02/22 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 / (กลาง) ลีก คัพ
03/01/22 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
29/08/21 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1
05/03/21 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-1
20/09/20 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
23/07/20 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 5-3
04/03/20 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 / เอฟเอ คัพ

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เชลซี
03/08/23 เสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 0.5 … เสีย
31/07/23 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 0.75 … ได้
27/07/23 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (กลาง) กระชับมิตร / เสมอ … เจ๊า
23/07/23 ชนะ ไบรท์ตันฯ 4-3 (กลาง) กระชับมิตร / เสมอ … ได้
20/07/23 ชนะ เร็กซ์แฮม 5-0 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 2 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

ลิเวอร์พูล
08/08/23 ชนะ ดาร์มสตัดต์ 3-1 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 2.25 … เสียครึ่ง
02/08/23 แพ้ บาเยิร์น 3-4 (กลาง) กระชับมิตร / เสมอ … เสีย
30/07/23 ชนะ เลสเตอร์ 4-0 (กลาง) กระชับมิตร / ไม่เปิดราคา
24/07/23 เสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 (เยือน) กระชับมิตร / ต่อ 2.25 … เสีย
20/07/23 ชนะ คาร์ลสรูห์ 4-2 (เยือน) กระชับมิตร / ไม่เปิดราคา
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

เชลซี
เหย้า – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –
เยือน – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –
เยือน – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

เชลซี

          เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ้ โปเช็ตติโน่ เพิ่งจะเจ๊า ดอร์ทมุนด์ 1-1 ในแมตช์อุ่นเครื่องหนล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ยังคงไม่มีชื่อ อาร์มันโด้ โบรย่า, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, เบอนัวต์ บาดิอาชิเล่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งอยู่ในระหว่างพักรักษาตัวยกเข่ง คาดว่า โปเช็ตติโน่ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี นิโคลัส แจ็คสัน ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แคร์นี่ย์ ชุควูเอเมก้า ดาวรุ่งวัย 19 ปี รับจ๊อบเพลย์เมคเกอร์คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ (-)
กองหลัง – เบอนัวต์ บาดิอาชิเล่ (-), เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (-)
กองหน้า – อาร์มันโด้ โบรย่า (-), คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู (-)

เชลซี (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า – รีซ เจมส์, อั๊กเซล ดิซาซี่, เลวี่ โคลวิลล์, เบ็น ชิลเวลล์ – คอเนอร์ กัลลาเกอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แคร์นี่ย์ ชุควูเอเมก้า, มีไคโล มูดริค – นิโคลัส แจ็คสัน

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะอุ่นเครื่องเอาชนะ ดาร์มสตัดต์ 3-1 ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ธิอาโก้ อัลคานตาร่า กับ สเตฟาน บายเซติช สองแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป กับ ดิโอโก้ โชต้า เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายและใช้ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ปักหลักคุมเชิงจากแดนกลางตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – สเตฟาน บายเซติช (-)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (-)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป, ดิโอโก้ โชต้า

ทรรศนะ

          แม้ว่าการเสริมทัพของเจ้าบ้าน เชลซี จะค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย เพราะแทบจะผ่าตัดทีมขนานใหญ่ ไล่เรืยงไปตั้งแต่โค้ช, ผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และแดนหน้า ซึ่งแทบจะเป็นคนละทีมกับซีซั่นที่แล้วแบบหมดจน ทว่าการทำอะไรแบบนี้ก็ต้องเสี่ยงกับการปรับจูนแบบขั้นสุดเช่นเดียวกัน เชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 2-3 สัปดาห์กว่าจะเข้าขากันหรือตามสปีดบอลพรีเมียร์ลีกทัน สวนทางกับทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่มาดีมีทรงและคงผู้เล่นแกนหลักแบบ 80% อาจจะมีเปลี่ยนแค่แผงกลางที่ก็ได้สองตัวเก่งเข้ามา ทำให้เกมรุกจัดจ้านยกเครื่องยิ่งกว่าเดิม อย่างไรก็ดีกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะต้องขันแนวรับให้แน่นขึ้นกว่านี้ หากอยากเก็บสามคะแนนประเดิมซีซั่นใหม่ แต่เชื่อว่าแมตช์นี้เอาอยู่สบาย แนะนำอยู่ต่อรอรับทรัพย์น่าจะเวิร์คสุด ฟันธง! จัดให้ “หงส์แดง”

ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1”