พรีเมียร์ลีก เวลา : 23.30 น. ลิเวอร์พูล (6) -vs- แมนฯยู (3) ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25(-5)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล (6) -vs- แมนฯยู (3)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 23.30 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

23/08/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
12/07/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 / (กลาง) กระชับมิตร
20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 4-0
24/10/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5
14/05/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4
25/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ
18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0
20/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 2-0
20/10/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
24/02/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล
02/03/23 ชนะ วูล์ฟส์ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … ได้
26/02/23 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
22/02/23 แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.25 … เสีย
19/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.25 … ได้
14/02/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 27 เสีย 9

แมนฯยู
02/03/23 ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.75 … ได้
27/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (กลาง) ลีก คัพ / ต่อ 0.25 … ได้
24/02/23 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
19/02/23 ชนะ เลสเตอร์ 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … ได้
17/02/23 เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / รอง 0.75 … ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 4 ได้ 17 เสีย 20

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 4 เสีย 0
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 3

แมนฯยู
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 3
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 4

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ วูล์ฟส์ 2-0 ในลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก หลุยส์ ดิอาซ, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า และ แคลวิน แรมเซย์ สามแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป กับ ดิโอโก้ โชต้า เป็นสามทหารเสือคอยล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ กับ สเตฟาน บายเซติช ปักหลักคุมกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แคลวิน แรมเซย์ (-)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (14 นัด)
กองหน้า – หลุยส์ ดิอาซ (8 นัด/3 ประตู)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป, ดิโอโก้ โชต้า

แมนฯยู

          แมนฯยู ของกุนซือ อีริค เตน ฮาก เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เวสต์แฮม 3-1 ในศึก เอฟเอ คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ จะไม่สามารถใช้งาน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, ดอนนี่ ฟาน เด เบ็ค กับ คริสเตียน อีริคเซ่น สามแข้งเดี้ยงที่อยู่ในระหว่างพักรักษาตัว ขณะที่ทางด้าน เจดอน ซานโช่ ซึ่งถูกพิษป่วยเล่นงานน่าจะฟิตไม่พอลงช่วยเพื่อน คาดว่า เตน ฮาก เตรียมจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกสตาร์ทยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ บรูโน่ แฟร์นานเดส, วู้ต เว็กฮอร์สต์ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์โอกาสอยู่ด้านหลังตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองกลาง – ดอนนี่ ฟาน เด เบ็ค (7 นัด), คริสเตียน อีริคเซ่น (19 นัด/1 ประตู)
กองหน้า – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (9 นัด/3 ประตู)

แมนฯยู (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา – ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย – คาเซมิโร่, มาร์เซล ซาบิตเซอร์ – บรูโน่ แฟร์นานเดส, วู้ต เว็กฮอร์สต์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ – มาร์คัส แรชฟอร์ด

ทรรศนะ 

          ดูเหมือนงานนี้เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล อาจจะใจมา และปลุกผีคืนชีพกลับมาได้ทันเวลา หลังเปิดรังเอาชนะ วูล์ฟส์ 2-0 สดๆ ร้อนๆ ซึ่งแมตช์นี้จะได้ลงบู๊ใน แอนฟิลด์ ต่อเนื่อง ยิ่งทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบในศึก “แดงเดือด” ค่อนข้างมั่นใจว่าเจอกันหนนี้ไม่จืดเหมือนทุกครั้งแน่นอน จริงอยู่ที่ แมนฯยู จะเพิ่งคว้าชัยรวด 4 หนท้ายทุกรายการจาก 4 ถ้วย เรียกว่าลงเตะใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟาดเรียบทุกนัด ทว่าการออกบู๊นอกรังเป็นครั้งแรกในรอบสองสัปดาห์เศษ น่าจะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ง่ายที่จะบุกไปข่มขวัญคู่แข่งที่กำลังติดเครื่องอยู่ ฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่ต่อรอรับทรัพย์สบายใจสุด ฟันธง! จัดไป “หงส์แดง”

ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ”