“ญี่ปุ่น” ไปไม่ถึงดวงดาวซะแล้ว พลาดท่าแพ้ “โครเอเชีย” ที่นิ่งกว่าในการดวลจุดโทษ จบเส้นทางฟุตบอลโลก 2022 ที่รอบ 16 ทีม
วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม คู่ที่ 5 ซึ่งเป็นคู่แรกของวันนี้ เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 เป็นเกมที่สนามอัล จานอบ สเตเดียม เมืองอัล วาคราห์ ประเทศกาตาร์ ทีมชาติญี่ปุ่น อันดับ 24 ของโลก แชมป์กลุ่มอี พบกับ “รองแชมป์เก่า” ทีมชาติโครเอเชีย อันดับ 12 ของโลก รองแชมป์กลุ่มเอฟ
เกมนี้ ญี่ปุ่น ส่ง ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ กองหลังจาก อาร์เซนอล ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ทันเวลา ลงคุมแนวรับแทน โค อิตาคุระ ที่ติดโทษแบน ส่วนแนวรุกใช้ ริตสึ โดอัน ลงสนามแทน ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่บาดเจ็บ ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ส่วน โครเอเชีย ใช้ บอร์นา บาริซิช ลงแบ็กซ้ายแทน บอร์นา โซซา แต่ยังมีตัวหลักอย่าง ลูกา โมดริช กัปตันทีม, มาเตโอ โควาชิช และ อิวาน เปริซิช
เริ่มเกมไม่ถึง 2 นาที ญี่ปุ่น ได้ลุ้นประตูก่อนอย่างรวดเร็ว จากการเล่นลูกเตะมุมสั้น วาตารุ เอนโดะ เปิดเข้าไปให้ โชโกะ ทานิงุจิ ขึ้นโหม่ง แต่บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 8 โครเอเชีย เกือบเล่นงาน ญี่ปุ่น ได้เหมือนกัน เมื่อ อิวาน เปริซิช ขโมยบอลจาก ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ที่ออกลูกประมาท ไปปล่อยบอลตกพื้นแล้วพยายามจ่ายคืนผู้รักษาประตู แต่ เปริซิช ยังยิงไปติดเซฟ ชูอิจิ กอนดะ
นาทีที่ 41 ไดเซน มาเอดะ เบียดแย่งบอลจาก ลูกา โมดริช มาได้ ก่อนจ่ายคืนให้ วาตารุ เอนโดะ แทงทะลุช่องให้ ไดจิ คามาดะ หลอกกองหลัง 1 ทีในเขตโทษ แต่จังหวะยิงกลับซัดโด่งข้ามคานออกไปแบบน่าเจ็บใจ
แต่แล้วนาทีที่ 43 ญี่ปุ่น ก็ขึ้นนำจนได้ จากลูกสูตรจังหวะเตะมุมสั้น มายะ โยชิดะ โหม่งโดนไม่เต็มหัวแต่กลายเป็นดี บอลมาเข้าทาง ไดเซน มาเอดะ ตวัดยิงเข้าไป แม้วีเออาร์จะเช็กล้ำหน้า แต่ โชโกะ ทานิงุจิ ยังอยู่ในไลน์แนวรับตัวสุดท้ายของ โครเอเชีย ทำให้จบครึ่งแรก “ซามูไรบลู” นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 โครเอเชีย ตามตีเสมอ 1-1 เดยัน ลอฟเรน วางบอลโด่งให้ อิวาน เปริซิช เทคตัวเหนือกองหลังญี่ปุ่น ก่อนโหม่งเล่นทางหนีมือ ชูอิจิ กอนดะ เสียบเสาสองอย่างเด็ดขาด
นาทีที่ 57 ญี่ปุ่น เกือบขึ้นนำครั้งที่ 2 จากลูกยิงใบไม้ร่วงของ วาตารุ เอนโดะ แต่ โดมินิค ลิวาโควิช ยังปัดบอลข้ามคานได้หวุดหวิด
นาทีที่ 62 โครเอเชีย ปรับแท็กติกด้วยการส่ง อันเต บูดิเมียร์ กองหน้าร่างใหญ่ลงไปแทน บรูโน เพตโควิช เพื่อเน้นโจมตีด้วยลูกกลางอากาศมากขึ้น จากนั้นนาทีที่ 64 ญี่ปุ่น ก็เน้นเกมรุกเพิ่มขึ้นบ้าง ส่ง คาโอรุ มิโตมะ กับ ทาคุมะ อาซาโนะ ลงมาแทน ยูโต นากาโตโมะ และ ไดเซน มาเอดะ
นาทีที่ 66 การรับมือลูกกลางอากาศยังเป็นปัญหาของ ญี่ปุ่น ซึ่ง โครเอเชีย ก็อาศัยบอลโด่งเปิดเข้ามาให้ อันเต บูดิเมียร์ โหม่งเน้นๆ แต่บอลเฉี่ยวเสาเพียงนิดเดียว
นาทีที่ 77 โครเอเชีย ยังบุกได้อย่างน่ากลัว อิวาน เปริซิช พาบอลขึ้นมาจากจังหวะสวนกลับ ก่อนยิงหน้าเขตโทษ บอลแฉลบปลายเท้า ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ พุ่งออกข้างเสาแบบได้เสียว จบ 90 นาที ยังเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 99 โครเอเชีย ถอดเอา ลูกา โมดริช กับ มาเตโอ โควาชิช ออกมาพัก แล้วส่ง ลอฟโร มาเยอร์ และ นิโกลา วลาซิช ลงมาเติมความสดแทน
นาทีที่ 104 คาโอรุ มิโตมะ กระชากบอลมาจากครึ่งแดนตัวเอง ก่อนเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษ โครเอเชีย แล้วยิงเต็มข้อ แต่ยังโดน โดมินิค ลิวาโควิช ปัดเอาไว้ได้ จากนั้นก็ยังไม่มีใครทำประตูกันได้อีก ครบ 120 นาที เสมอ 0-0 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ปรากฏว่า ญี่ปุ่น ยิงเข้าเพียง 1 คน โดย ทาคุมะ อาซาโนะ ขณะที่ ทาคุมิ มินามิโนะ, คาโอรุ มิโตมะ 2 ตัวสำรอง รวมถึง มายะ โยชิดะ กัปตันทีม ซัดไปติดเซฟ โดมินิค ลิวาโควิช ทั้งหมด
ส่วน โครเอเชีย ยิงแม่นกว่า พลาดเพียงแค่ มาร์โก ลิวายา ที่ซัดชนเสา ขณะที่ นิโกลา วลาซิช, มาร์เซโล โบรโซวิช และ มาริโอ ปาซาลิช สังหารไม่พลาด เอาชนะจุดโทษ ญี่ปุ่น 3-1 สกอร์รวมในเวลาปกติ 4-2 เข้ารอบ 8 ทีมไปรอพบผู้ชนะระหว่าง บราซิล หรือ เกาหลีใต้
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
ญี่ปุ่น (ระบบ 3-4-3) : ชูอิจิ กอนดะ (ผู้รักษาประตู) – ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, มายะ โยชิดะ (กัปตันทีม), โชโกะ ทานิงุจิ – จุนยะ อิโตะ, วาตารุ เอนโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, ยูโตะ นากาโตโมะ – ริตสึ โดอัน, ไดเซน มาเอดะ, ไดจิ คามาดะ
โครเอเชีย (ระบบ 4-3-3) : โดมินิค ลิวาโควิช (ผู้รักษาประตู) – โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา บาริซิช – ลูกา โมดริช (กัปตันทีม), มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช – อันเดรจ์ ครามาริช, บรูโน เพตโควิช, อิวาน เปริซิช