วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2564
ยูโร 2020 (รอบชิงชนะเลิศ)
อังกฤษ -VS- อิตาลี
เวลา : 02:00 น.
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (ลอนดอน – อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด : NBT 2HD / True Sports HD3
เรตราคาไทย : เสมอ อังกฤษ
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
25/06/12 อังกฤษ 0-0 (P) อิตาลี (ยูโร)
16/08/12 อังกฤษ 2-1 อิตาลี (กระชับมิตรทีมชาติ)
15/06/14 อังกฤษ 1-2 อิตาลี (ฟุตบอลโลก)
01/04/15 อิตาลี 1-1 อังกฤษ (กระชับมิตรทีมชาติ)
28/03/18 อังกฤษ 1-1 อิตาลี (กระชับมิตรทีมชาติ)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
อังกฤษ
18/06/21 เสมอ สกอตแลนด์ 0-0 (เหย้า, ยูโร 2020)
22/06/21 ชนะ เช็ก 1-0 (เหย้า, ยูโร 2020)
29/06/21 ชนะ เยอรมนี 2-0 (เหย้า, ยูโร 2020)
02/07/21 ชนะ ยูเครน 4-0 (สนามกลาง, ยูโร 2020)
07/07/21 ชนะ เดนมาร์ก (E) 2-1 (เหย้า, ยูโร 2020)
อิตาลี
16/06/21 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 (เหย้า, ยูโร 2020)
20/06/21 ชนะ เวลส์ 1-0 (เหย้า, ยูโร 2020)
26/06/21 ชนะ ออสเตรีย (E) 2-1 (สนามกลาง, ยูโร 2020)
02/07/21 ชนะ เบลเยียม 2-1 (สนามกลาง, ยูโร 2020)
06/07/21 ชนะ สเปน (P) 1-1 (สนามกลาง, ยูโร 2020)
สภาพทีมโดยทั่วไป
อังกฤษ
ทีมชาติอังกฤษ แมตช์นี้ผู้จัดการทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต เพียงต้องเช็คความฟิตของ ฟิล โฟเด้น การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยังมี ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ ในแผงแบ็กโฟร์ คู่มิดฟิลด์ตัวกลางเป็น เดแคลน ไรซ์ กับ คัลวิน ฟิลลิปส์ พร้อมยึดแนวรุก ราฮีม สเตอร์ลิง, เมสัน เมาท์ และ บูกาโย่ ซาก้า สอดประสานงานเกมบุกหลัง แฮร์รี่ เคน ดาวยิงกัปตันทีมผลิตสกอร์ติดตลอด 3 เกมรอบน็อคเอาต์ ทำให้ แจ็ค กรีลิช, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, มาร์คัส แรชฟอร์ด, คีแรน ทริปเปียร์, โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน, เบน ชิลเวลล์, จู๊ด เบลลิงแฮม ละ เจดอน ซานโช่ ยังต้องรอโอกาสก่อน
อิตาลี
ทีมชาติอิตาลี แมตช์นี้เฮดโค้ช โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่มี เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แบ็กซ้ายฟอร์มร้อนแรงบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายในรอบก่อนรองชนะเลิศ และจนต้องถอนตัวจากทีมไป การจัดทีมตามแผน 4-3-3 ยังประจำตำแหน่งด้วย 11 ตัวจริงจากรอบตัดเชือกที่มี เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เป็น 2 ปราการหน้าโกลดาวรุ่ง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แผงมิดฟิลด์วาง จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ และ นิโคโล่ บาเรลล่า ส่วน 3 ตัวรุกยังเป็น ลอเรนโซ่ อินซินเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า โดยมี โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, มานูเอล โลคาเตลลี่, อันเดรีย เบล็อตติ, เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, ไบรอัน คริสตันเต้, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, อเลสซานโดร บาสโตนี่ และ มัตเตโอ เปสซิน่า เป็นกำลังสำรอง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อังกฤษ
อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิ๊คฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – เดแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปส์ – บูกาโย่ ซาก้า, เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิง – แฮร์รี่ เคน
อิตาลี
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เอเมอร์สัน พัลเมียรี่ – จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ, นิโคโล่ บาเรลล่า – เฟเดริโก้ เคียซ่า, ลอเรนโซ่ อินซินเย่, ชิโร่ อิมโมบิเล่
ความน่าจะเป็นของเกม
อิตาลี ฟอร์มในยูโรยังดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องจากรอบแบ่งกลุ่มควบเข้าวิน 3 เกมแรก แม้กำชัยในเกม 90 นาที นัดเดียวใน 3 เกมของรอบน็อคเอาต์ และต้องลากยาวถึง 120 นาที 2 นัด โดยเฉพาะเกมล่าสุดต้องตัดสินกันด้วยการดวลเป้าเอาชนะ สเปน ในรอบรองชนะเลิศ แต่ยังมีเกมรุกดุดันกับเกมรับแข็งแกร่งตามแบบฉบับอิตาเลียน ส่วนทางด้าน อังกฤษ ฟอร์มในยูโรสามารถยกระดับฟอร์มขึ้นมากชัดเจนเมื่อเข้าสู่รอบน็อคเอาต์จากการซิวชัยติดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนเฉือน เดนมาร์ก ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบตัดเชือกที่ผ่านมา พร้อมเกมรับ-รุกยังเล่นลงตัว และหวังผลได้เสมอ นัดชิงชนะเลิศยูโรนี้ “อัซซูรี่” อาจมีเฮดทูเฮดดีกว่า “ทรี ไลอ้อนส์” ในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ แต่ “สิงโตคำราม” เต็มไปด้วยความกระหาย และกุมความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าถิ่นเก็บผลเสมอในเวลาปกติได้เป็นอย่างน้อย