โรเมลู ลูกากู หัวหอก เชลซี ระบุ เคยบอกปัดที่จะมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ตอนช่วงกลางปี 2020 หรือก็คือหลังจากเล่นให้ อินเตอร์ ครบ 1 ปี พร้อมยอมรับว่าถ้าตอนนั้น อินเตอร์ ยอมมอบสัญญาฉบับใหม่ให้ตนแล้วล่ะก็ ตนก็คงจะอยู่กับทีมต่อไปแล้ว
โรเมลู ลูกากู กองหน้า เชลซี ยอดสโมสรของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าตนเคยปฏิเสธที่จะมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2020 ทั้งที่ตอนนั้น “เรือใบสีฟ้า” เสนอที่จะให้ค่าเหนื่อยเยอะกว่าที่ได้รับอยู่กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” ในตอนนี้ด้วยซ้ำ
ลูกากู กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนของวงการลูกหนังอังกฤษ จากการที่มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวบอกว่ากำลังไม่มีความสุขกับสถานการณ์ของตัวเองที่ เชลซี เท่าไหร่นัก หลังเพิ่งย้ายกลับมาอยู่กับทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดาวเตะชาวเบลเยียมเผยว่า “ตอนที่ผมอยู่กับ อินเตอร์ น่ะ ผมเคยปฏิเสธข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตอนที่จบปีแรกของผมกับที่นั่น (อินเตอร์) ด้วย แถมข้อเสนอของพวกเขาในตอนนั้นก็ให้เงินเยอะกว่าที่ เชลซี มอบให้ผมในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย ที่ผมปฏิเสธไปก็เพราะผมเพิ่งเล่นกับทีมได้แค่ปีเดียว มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะย้ายทีม และผมเองก็ไม่อยากย้ายออกจากทีมในตอนนั้นเหมือนกัน ผมอยากทำบางอย่างที่ดีๆ ให้กับ อินเตอร์ เพราะผมต้องบอกเลยว่า อินเตอร์ น่ะช่วยชีวิตการเป็นนักเตะของผมเอาไว้ในระดับหนึ่ง”
“ตอนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมตกไปอยู่ในเหวลึก หลายอย่างมันออกมาแย่ อินเตอร์ ลงทุนกับผมไปเยอะ แต่สุดท้ายเราก็ทำเรื่องที่ยอดเยี่ยมร่วมกันได้ ดังนั้นหลังจากที่เราได้ สคูเด็ตโต้ ในปีที่ 2 ของผมกับทีมแล้วน่ะ ผมเลยเข้าไปคุยกับผู้บริหารของสโมสรเพื่อขอสัญญาฉบับใหม่ ผมทำอย่างนั้นเพราะผมมองว่าตัวเองอายุ 28 ปีแล้ว ขณะที่ครอบครัวของผมก็รู้สึกดีกับการใช้ชีวิตในเมืองมิลาน ทุกวันนี้ผมยังมีแฟลตอยู่ที่นั่นเลย บางครั้งคุณแม่กับลูกชายของผมก็ไปอยู่ที่นั่นและเราก็รู้สึกดีกันสุดๆ”
“อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่อยากต่อสัญญากับผม มันไม่มีโอกาสเลยที่จะมีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กัน สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก เพราะในหัวของผมน่ะผมบอกกับตัวเองว่าผมน่าจะยังเล่นใน มิลาน ได้อีกสักหน่อย”
“ในความคิดของผมนั้นมันมี 3 ทีมที่เป็นทีมชั้นยอดของโลกฟุตบอล นั่นคือ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค นักเตะทุกคนต่างก็มีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้เล่นให้หนึ่งในทีมเหล่านั้น ดังนั้นตอนนั้นผมเลยคิดว่าถ้ามีโอกาสแล้วล่ะก็ ผมจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ อินเตอร์ แล้วจากนั้นพอผ่านไปพักหนึ่งก็ค่อยไปเล่นให้กับทีมเหล่านัน้ แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นผมเลยบอกกับตัวเองว่ามันมีทีมเดียวที่ผมพอจะมองออกว่าผมจะย้ายไปเล่นด้วยได้ นั่นคือ เชลซี”
“ตอนแรกผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับการกลับมาเล่นกับที่นี่เลย แต่อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาก็ติดต่อมาหาผม และผมก็เข้าไปบอกกับ (ซิโมเน่) อินซากี้ ว่าอยากจะย้ายออกจากทีม การที่พวกเขา (อินเตอร์) ไม่พยายามที่จะต่อสัญญากับผมเลยน่ะมันทำให้ผมหัวเสียนิดหน่อย มันถึงขั้นทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเลยก็ว่าได้ ถ้าเกิด อินเตอร์ มอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับผมแล้วล่ะก็ ผมก็คงจะอยู่กับทีมต่อ 100 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนั้นเลย”
“นอกจากนี้ผมก็ยังคาใจกับการที่ตัวเองไม่เคยได้แชมป์อะไรเลยกับการเล่นที่ อังกฤษ เป็นเวลา 8 ปีด้วย ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธโอกาสในการย้ายกลับมาที่นี่เพื่อเล่นให้กับทีมที่ผมตามเชียร์มาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก”