การแข่งขันศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ระหว่าง ปอร์โต้ ลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เริ่มเกมมาได้ 10 นาที ปอร์โต้ ต้องมาเจอข่าวร้าย
เนื่องจาก โอตาวิโอ มีปัญหาบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ คอนไซเซา กุนซือ ปอร์โต้ ตัดสินใจส่ง ฟาบิโอ วิเอยร่า ลงไปแทน ทำให้เสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปตั้งแต่ต้นเกม
นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ เคอร์ติส โจนส์ พาบอลลุยขึ้นมาก่อนจะยิงไปติดเซฟ ดิโอโก้ คอสต้า บอลยังไปเข้าทาง ไซดู ซานูซี่ จับบอลไม่ดี และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ออกนำ 0-1
นาทีที่ 26 หงส์แดง เกือบได้ประตูเพิ่ม
จากจังหวะของ ดิโอโก้ โชต้า ได้โอกาสวางเท้ายิงเต็ม ๆ แต่ต้องชม ดิโอโก้ คอสต้า บินปัดเอาไว้ได้ปลายนิ้วบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 38 ปอร์โต้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ หลุยส์ ดิอาซ พาบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนจะได้ช่องยิงเน้น ๆ แต่บอลเบาไป ทำให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ล้มตัวรับบอลไว้ได้สบาย ๆ
นาทีที่ 45 “หงส์แดง” มาได้ประตูหนีห่างเป็น 0-2
จากจังหวะเปิดบอลเข้ากลางของ เจมส์ มิลเนอร์ บอลไปถึง ซาดิโอ มาเน่ ในเขตโทษแตะบอลเข้าไปง่าย ๆ ไม่พลาด ลิเวอร์พูล หนีห่าง 0-2
จบครึ่งเวลาแรก ปอร์โต้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 0-2 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่าทำให้ตุนสกอร์ไปได้ก่อนถึงสองเม็ด ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล ยังไม่ผ่อนเกม
จากจังหวะของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาสูงทางฝั่งซ้ายก่อนจะได้โอกาสซัดเต็มข้อ แต่บอลก็ยังไม่ผ่าน ดิโอโก้ คอสต้า เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้
นาทีที่ 60 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเม็ดที่สองมีลุ้นแฮตทริก
จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ พาบอลเข้ากลางก่อนจ่ายบอลไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 0-3
นาทีที่ 75 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีไข่แตก
จากจังหวะของ วิเอยร่า เปิดบอลเข้ากลางหน้าปากประตูก่อนจะเป็น เมห์ดี้ ทาเรมี่ พุ่งโหม่งส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ ปอร์โต้ ไล่มา 1-3
นาทีที่ 77 ลิเวอร์พูล ทวงประตูคืนทันควัน
จากจังหวะของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถึงบอลก่อน ดิโอโก้ คอสต้า ที่พยายามจะออกมาตัดบอลนอกกรอบแต่พลาด ฟีร์มีโน่ ยิงบอลไหลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ถึงแม้ ดิโอโก้ คอสต้า นายด่านเจ้าบ้านจะตามไปปัดออกมา แต่ก็ไม่ทันแล้ว ลิเวอร์พูล นำห่างอีกครั้ง 1-4
นาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของแนวรับปอร์โต้สกัดบอลออกมาไม่ดีมาเข้าทาง เคอร์ติส โจนส์ ยิงไกลนอกกรอบบอลพุ่งไปติดบล็อคก่อนจะมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าไปไม่เหลือ ผู้ตัดสินเช็ค VAR เรียบร้อย ไม่มีปัญหา เป็นสกอร์ของลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 1-5
จบเกม ปอร์โต้ แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ไป 1-5 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ลิเวอร์พูล มี 6 คะแนน เป็นจ่าฝูงของกลุ่ม และทางด้าน ปอร์โต้ มี 1 คะแนน อยู่อันดับที่ 3