การแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ ระหว่าง ซาน มาริโน่ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อังกฤษ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-3
เกมเริ่มมาได้ 5 นาที “สิงโตคำราม” ทะยานออกนำจนได้
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ปั่นบอลโค้งเข้ามาให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สอดมาเน้น ๆ บอลผ่านมือ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 15 อังกฤษ ขยับหนีห่างอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ บูกาโย่ ซาก้า สอดขึ้นมารับบอลในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนจะได้ช่องยิง บอลไปแฉลบ ฟิลิปโป้ ฟับบรี เปลี่ยนทางเด้งเข้าประตูไปไม่เหลือ อังกฤษ นำห่าง 0-2
นาทีที่ 25 เกมรุกยังเป็นของ อังกฤษ
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น ได้โอกาสจักรยานอากาศในเขตโทษบอลพุ่งไปโดนมือ ดันเต้ รอสซี่ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าก่อนจะเช็ค วีเออาร์ และหันกลับมาเป่าให้จุดโทษ และเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด อังกฤษ ทิ้งห่าง 0-3
นาทีที่ 32 “สิงโตคำราม” ยังไม่ผ่อนเกมรุก
จากจังหวะของ เอมิล สมิธ โรว์ สอดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายเปิดบอลเข้าเขตโทษไปถึง แฮร์รี่ เคน ยิงตามน้ำหนีบล็อคกระดอนพื้นผ่านมือ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ เสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม อังกฤษ นำโด่ง 0-4
นาทีที่ 39 แฮร์รี่ เคน ซัดแฮตทริก
จากจังหวะบอลโด่งเข้ามาหน้าปากประตูบอลถึง แฮร์รี่ เคน สอดมาโหม่งบอลในเขตโทษไปติดมือแนวรับ ซาน มาริโน่ อีกครั้ง ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจุดโทษทันทีก่อนจะเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือ อังกฤษ นำโด่ง 0-5
นาทีที่ 42 อังกฤษ เดินหน้าไล่อัดไม่หยุด
จากจังหวะของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลแหวกขึ้นมาก่อนจะไปชนแนวรับ ซาน มาริโน่ เด้งเข้าทาง แฮร์รี่ เคน แตะเข้าเขตโทษก่อนยิงหักข้อด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น อังกฤษ หนีห่าง 0-6
จบครึ่งเวลาแรก ซาน มาริโน่ ตามหลัง อังกฤษ อยู่ที่ 0-6 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เป็นส่วนใหญ่ จนสามารถตุนสกอร์ไปได้ก่อนถึง 6 ลูก ติดตามชมกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 58 อังกฤษ ยังไม่ผ่อนเกมรุก
จากจังหวะประสานงานสุดสวยของ บูกาโย่ ซาก้า เปิดบอลเข้าเขตโทษไปให้ แทมมี อับราฮัม สอดมาตอกส้นจ่ายไปให้ เอมิล สมิธ โรว์ ยิงจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ นำขาด 0-7
นาทีที่ 68 ซาน มาริโน่ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน
จากจังหวะของ ดันเต้ รอสซี่ ไปเสียเหลี่ยมเกี่ยวขา คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ร่วงลงไปหน้าเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไม่มีทางเลือกให้ใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ซาน มาริโน่ เหลือ 10 คนในสนาม
นาทีที่ 69 อังกฤษไม่พลาดโอกาส
จากลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้าเขตโทษโค้งเข้ามาให้ ไทโรน มิงส์ โฉบมาโหม่งเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ อังกฤษ นำโด่ง 0-8
นาทีที่ 78 อังกฤษบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว
จากจังหวะของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้าเขตโทษไปให้ แทมมี อับราฮัม สอดขึ้นหน้ามาแต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะได้ช่องยิงบอลผ่านมือ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ ทิ้งห่าง 0-9
นาทีที่ 80 “สิงโตคำราม” มาได้ประตูปิดกล่องลูกที่ 10
จากจังหวะขึ้นบอลทางฝั่งขวาของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้ามาหน้าปากประตูให้ บูกาโย่ ซาก้า ได้ขึ้นโหม่งเน้น ๆ บอลพุ่งแสกหน้า ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ เข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ นำโด่ง 0-10
จบเกม ซาน มาริโน่ แพ้ให้กับ อังกฤษ ไป 0-10 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และสร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าทำให้เกมนี้ อังกฤษ บุกมาถล่มไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ อังกฤษ มี 26 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน ซาน มาริโน่ ยังไร้คะแนนจมบ๊วยของกลุ่ม