ภายหลังการประกาศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม มีดราม่าในงานซึ่ง คริสเตียโน โรนัลโด อันดับ 6 ของปีนี้ ออกมาแฉใส่ประธานจัดงานมอบรางวัลชนิดยาวเหยียด
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ภายหลังจากที่ ลีโอเนล เมสซี สามารถเอาชนะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และ จอร์จินโญ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟรองซ์ ฟุตบอล หรือว่า บัลลงดอร์ เป็นสมัยที่ 7 ของเจ้าตัว
ภายหลังจากการประกาศรางวัล คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความไม่พอใจและตอบโต้ใส่ ปาสกาล เฟร์เร บรรณาธิการนิตยสาร ฟรองซ์ ฟุตบอล ที่ก่อนหน้านี้ออกมากล่าวหา “โรนัลโด” มีความทะเยอทะยานที่จะชนะรางวัล บัลลงดอร์ มากกว่าใครๆ และ อยากจะเลิกเล่นฟุตบอลด้วยการที่มีรางวัลนี้มากกว่า เมสซี
ซึ่งทาง โรนัลโด ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวผ่าน อินสตาแกรมส่วนตัวแล้ว และได้แฉกลับใส่ทาง บรรณาธิการของ ฟรองซ์ ฟุตบอลอีกด้วยว่าทาง เฟร์เร ใช้ตนในการโปรโมตงานนี้ทุกปี อีกทั้งยังทำให้เขาถูกเข้าใจผิดที่ไม่มาในงานครั้งนี้เพราะต้องกักตัวตามมาตรการโควิด-19 ซึ่ง โรนัลโด เผยเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
“ปาสกาล เฟร์เร พูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผมบอกกับเขาว่า ความทะเยอทะยานเดียวของผมคือการแขวนสตั๊ดโดยคว้าฟุตบอลทองคำให้ได้มากกว่าเมสซี” โรนัลโด เขียนทางอินสตาแกรม
“ปาสกาล เฟร์เร โกหก เขาใช้ชื่อผมเพื่อโปรโมตตัวเอง และโปรโมตนิตยสารที่เขาทำงานด้วย มันยอมรับไม่ได้ที่คนซึ่งรับผิดชอบรางวัลที่มีค่าขนาดนี้โกหกแบบนี้ มันไม่เคารพคนที่ให้ความเคารพต่อฟรองซ์ ฟุตบอล และบัลลงดอร์มาตลอด แล้วเขาก็ยังโกหกเรื่องที่ผมไม่ได้ไปงานกาลาว่าเป็นเพราะต้องกักตัวด้วย มันไม่มีเหตุผลแบบนั้นเลย
“ผมแสดงความยินดีต่อผู้ชนะ ด้วยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาและขาวสะอาดเสมอ มันเป็นสิ่งที่นำทางชีวิตค้าแข้งของผมมาตั้งแต่เริ่ม และผมทำแบบนั้นเพราะผมไม่ได้จะไปสู้กับใคร ผมคว้ารางวัลเพื่อตัวผมเอง เพื่อสโมสรที่ผมอยู่ ผมคว้ามันมาเพื่อตัวเอง และคนที่รักผม ผมไม่ได้คว้ารางวัลสู้กับใคร
“ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการคว้าแชมป์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติกับสโมสรที่ผมอยู่ และกับทีมชาติของผม ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนที่เป็นหรืออยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
“ผมจะปิดท้ายด้วยการบอกว่า สมาธิของผมตอนนี้อยู่กับเกมนัดหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โฟกัสทุกๆ อย่างอยู่กับเพื่อนร่วมทีมของผมและแฟนบอลของเรา เรายังประสบความสำเร็จได้ในฤดูกาลนี้ ส่วนที่เหลือน่ะเหรอ? ที่เหลือมันก็แค่ที่เหลือ”.