การแข่งขันในศึก ลีกเอิง ฝรั่งเศส ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ มงต์เปลลิเยร์เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และฝั่งผู้มาเยือน มาสู้ในระบบ 4-4-1-1
เกมดำเนินมาถึงนาที 16 จุดเปลี่ยนของเกม
จากจังหวะของ เลอันโดร ปาเรเดส จ่ายบอลทะลุให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเดี่ยวก่อนแตะหลบ โยนัส โอมลิน นายด่านมงต์เปลลิเย่ร์ไปแล้วแต่โดน โยนัส โอมลิน พุ่งเสียบนอกกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าฟาวล์และแจกใบเหลือง ก่อนจะมีสัญญาณจาก VAR ว่าอาจจะถึงขั้นใบแดง ซึ่งผู้ตัดสินวิ่งไปดูจอข้างสนามก่อนจะเปลี่ยนคำตัดสินวิ่งมาแจกเป็นใบแดงแทน ทำให้ทีมเยือนต้องเหลือแค่ 10 คน ตั้งแต่ต้นเกม
นาทีที่ 22 เจ้าบ้านเดินหน้าบุกหนัก
จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 18 หลา เป็น เนย์มาร์ที่รับหน้าที่ยิงก่อนจะวิ่งเข้ามาซัดบอลพุ่งเรียดแฉลบกำแพงหลุดเสาออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 27 ปารีสฯ เกือบขึ้นนำได้
จากจังหวะของ เนย์มาร์ จ่ายเข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างสวยให้ เมาโร อีการ์ดี้ วิ่งมารับบอลก่อนซัดมุมแคบบอลพุ่งเรียดหลุดเสาไกลออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 29 เจ้าบ้านพลิกสนามบุก
เป็นจังหวะของ เนย์มาร์ ไหลต่อให้ คูร์ซาว่า วิ่งอ้อมหลังก่อนพาบอลไปเกือบถึงเส้นหลังตบเข้ามาในให้ อังเคล ดิ มาเรีย วิ่งมากดเต็มข้อแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง
นาทีที่ 34 หลังจากบุกกดดันอยู่นาน ปารีสฯ เอาจนได้
เป็นจังหวะเล่นกันสวยสามประสานเริ่มจาก เนย์มาร์ ให้ ดิ มาเรีย จ่ายทะลุช่องให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าไปชิพบอลข้ามตัวนายด่านมงต์เปลลิเย่ร์ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกนำ 1-0
นาทีที่ 37 เจ้าบ้านเกือบได้ลูกที่สอง
จากจังหวะ เมาโร อีการ์ดี้ ช่วยกันแย่งบอลได้บริเวณหน้ากรอบของ มงต์เปลลิเยร์ ก่อนจะจ่ายให้ เนย์มาร์ พยายามจะไขว้หลังให้แต่ยังติดแนวรับทีมเยือนก่อนบอลจะกระดอนมาเข้าทาง เนย์มาร์ แต่งหาช่องซัดด้วยขวาหน้ากรอบแต่ถูก ดิมิทรี แบร์กโตด์ เซฟเอาไว้ได้
จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกนำ มงต์เปลลิเยร์ ไปได้ก่อน 1-0 รูปเกมหลังจากทีมเยือน มงต์เปลลิเยร์ มาเหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 16 เป็นทางฝั่ง เจ้าบ้าน ปารีสฯ ที่ครองเกมไว้ได้ทั้งหมด
เริ่มครึ่งหลังโปเช็ตติโน่ เปลี่ยนตัวถอดเอา เกย์ลอร์ นาวาส มือกาวของทีมออกแล้วส่ง เซร์คิโอ รีโก้ ลงไปเล่นแทน
นาทีที่ 55 เปแอสเช ทิ้งโอกาสทองที่จะประตูนำห่าง
จากจังหวะแนวรับของ มงต์เปลลิเยร์ สกัดบอลพลาดบอลมาเข้าทาง เมาโร อีการ์ดี้ ได้วอลเลย์จ่อๆหน้าประตูแต่ยิงไม่ห่างตัว ดิมิทรี แบร์กโตด์ พุ่งมาปัดออกข้างไปได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 60 เปแอสเช ได้เม็ดที่สอง
จากจังหวะ มาร์โก แวร์รัตติ เปิดบอลหยอดเข้าไปให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าไปในเขตโทษ จ่ายบอลเข้ากลางให้ เมาโร อีการ์ดี้ ยืนโล่งๆยิงเสียบมุมเข้าไปเข้าไปไม่เหลือ เปแอสเช นำห่าง 2-0
นาทีที่ 62 อีการ์ดี้ ซัดเพิ่มให้เจ้าบ้านนำห่าง 3-0
จากจังหวะ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ เติมขึ้นมาสูงก่อนหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดบอลเข้ามาไปแฉลบแข้งทีมเยือนก่อนเปลี่ยนทางไปเข้าทาง เมาโร อีการ์ดี้ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงเข้าไปไม่เหลือ เปแอสเช นำห่าง 3-0
อีกหนึ่งนาทีถัดมาในนาทีที่ 63 เจ้าบ้านมาได้เพิ่มอีกลูก
จากจังหวะประสานงานอันยอดเยี่ยม คีลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ ได้บอลกลางสนามส่งต่อให้ เนย์มาร์ กระชากพาบอลขึ้นมาก่อนไหลให้ เมาโร อีการ์ดี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับนายด่านทีมเยือนก่อนเลือกจ่ายให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งมายิงโล่งๆเข้าไปไม่พลาด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทิ้งห่าง 4-0
นาทีที่ 69 เจ้าบ้านเกือบได้เพิ่ม
จากจังหวะของ เลย์แว็ง คูร์ซาว่า ตีลังกายิงนอกกรอบก่อนบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
จบเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เอาชนะ มงต์เปลลิเยร์ ไปได้ 4-0 รูปเกมเป็นทางเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกได้ถึง 75% และสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ถึง 26 ครั้ง แต่ก็ถือว่าใช้โอกาสเปลืองเพราะยิงเข้ากรอบไปเพียง 8 ครั้ง มงต์เปลลิเยร์ ที่ต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่ต้นเกมไม่สามารถต้านทานเกมรุกของเจ้าบ้านได้ ส่งผลให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มี 45 คะแนน อยู่อันดับ 1 และทางด้าน มงต์เปลลิเยร์ มี 28 คะแนน อยู่อันดับ 11
เกมนัดถัดไปของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พบกับ ลอริยองต์ ในวันที่ 31 มกราคม 2021 และทางด้าน มงต์เปลลิเยร์ พบกับ ล็องส์ ในวันที่ 30 มกราคม 2021
ติดตามบทความ วิเคราะห์บอล พรีวิวหลังเกม ข่าวสารฟุตบอล และ ไฮไลท์ฟุตบอล ได้อีกเพียบที่นี่