การแข่งขันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง ไบรท์ตัน ลงสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เกมเริ่มมาได้เพียง 7 นาที เรือใบสีฟ้า ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ ชูเอา กันเซโล่ รับบอลก่อนจ่ายออกทางฝั่งซ้าย แจ็ค กรีลิช จ่ายบอลย้อนมาให้ ชูเอา กันเซโล่ ตรงเส้นกรอบเขตโทษ วิ่งมาซัดบอลพุ่งเรียดเกือบเสียบเสาแรก แต่บอลยังไปติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 11 ลูอิส ดังค์ ช่วยทีมรอดพ้นการเสียประตู
จากจังหวะของ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลเร็วไปให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาโยกหลอกแนวรับเจ้าบ้าน ก่อนจะยิงเต็มข้อบอลผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ไปแล้วกำลังจะเข้าซุกตาข่าย แต่ต้องชม ลูอิส ดังค์ ถอยมาเคลียร์บอลจากเส้นประตูได้ทันเวลา
นาทีที่ 13 “เรือใบสีฟ้า” บุกมาชิงทำประตูขึ้นนำไปจนได้
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น พาบอลลุยขึ้นมาก่อนนะได้โอกาสยิงเต็มข้อบอลไปชนตัวแนวรับเจ้าถิ่นพุ่งเข้ามาหน้าปากประตู โรเบิร์ต ซานเชซ กระโดดจะเก็บบอล แต่มี กาเบรียล เชซุส ขึ้นเบียดแย่งจนเสียจังหวะ แบร์นานโด้ ซิลวา ตวัดบอลเข้ามาหน้าปากประตูก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน จิ้มจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 20 แมนซิตี้ ยังเดินหน้าบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลไปให้ แจ็ค กรีลิช หลุดเข้ามาในเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะหามุมซัด บอลโดนเกมรับเจ้าบ้านขวางกระดอนมาหา กาเบรียล เชซุส ยิงเร็วทันที แต่ โรเบิร์ต ซานเชซ ยังทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 28 แมนซิตี้ มาได้เม็ดที่สอง
จากจังหวะของ แบร์นานโด้ ซิลวา ไหลบอลขึ้นไปให้ แจ็ค กรีลิช หลุดเข้ามาในเขตโทษก่อนจะจิ้มบอลออกมาให้ ฟิล โฟเด้น ซัดเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่พลาด แมนซิตี้ ทิ้งหนี 0-2
นาทีที่ 31 แนวรับไบร์ทตันช่วยกันไม่ไหว
จากจังหวะของ กาเบรียล เชซุส แตะบอลหลบแนวรับเจ้าบ้านหน้ากรอบเขตโทษ จ่ายบอลเรียดไปให้ แจ็ค กรีลิช ซัดมุมแคบแต่ยังโดน โรเบิร์ต ซานเชซ ใช้เท้าเซฟเอาไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ยิงไปแฉลบ ฟิล โฟเด้น บอลพุ่งเข้าตาข่ายไปไม่เหลือ แมน ซิตี้ นำห่าง 0-3
นาทีที่ 43 เจ้าบ้านได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ ยาคุบ โมลเดอร์ จ่ายบอลเข้ากลาง ไปให้โซโลมอน มาร์ช ตัดสินใจซัดไกลนอกกรอบ บอลพึ่งแรง เอแดร์ซอน โมราเอส รับบอลหลุดมือยังดีบอลไม่ตรงกรอบก่อนเจ้าตัวจะตามเก็บได้ทัน
จบครึ่งแรก ไบรท์ตัน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ที่ 0-3 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองเกมและสร้างโอกาสเข้าทำได้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ตุนสกอร์กุมความได้เปรียบไปก่อนถึง 3 ลูกต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 55 เอแดร์ซอน โมราเอส ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดบอลทางริมกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายข้ามมาให้ ปาสกาล กรอสส์ เอาบอลลงก่อนจะหมุนตัวยิง บอลพุ่งไปตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ย่อตัวรับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 58 เจ้าบ้านพยายามเปิดเกมแลก
จากจังหวะของ เลอันโดร ทรอสซาร์ พาบอลขึ้นหน้ามาก่อนจะลองส่องนอกกรอบ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน โมราเอส นายด่านเรือใบป้องกันช่วยทีมได้อีกครั้ง
นาทีที่ 61 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูตีตื้นสุด ๆ
จากจังหวะขอฝ อีน็อค เอ็มเวปู จ่ายบอลสั้นมาให้ ยาคุบ โมลเดอร์ จ่ายเรียดเร็วมาให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ กดเต็มข้อทางฝั่งซ้ายในเขตโทษ เอแดร์ซอน โมราเอส ล้มตัวจะป้องกันบอลลอดขาหลุดออกหลังไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 79 ไบรท์ตัน มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้
จากจังหวะของ อดัม ลัลลาน่า จ่ายบอลไปให้ ยาคุบ โมลเดอร์ จ่ายยัดเข้าเขตโทษมาให้ อีน็อค เอ็มเวปู ปรี่ถูก เอแดร์ซอน โมราเอส คว้าเท้าล้มไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ไบร์ทตัน ไล่มา 1-3
นาทีที่ 90 แมนซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ฟิล โฟเด้น แตะบอลเข้าไปหวังจะจบสกอร์ แต่โดน โรเบิร์ต ซานเชซ ออกมาขวางเอาไว้ แต่บอลยังกระดอนไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ซัดเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำโด่ง 1-4
จบเกม ไบรท์ตัน แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-4 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นของทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า ทำให้เกมนี้บุกมาเอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 20 คะแนน อยู่อันดับที่ 2 และทางด้าน ไบรท์ตัน มี 15 คะแนน อยู่อันดับที่ 4