การแข่งขันศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 3 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามพบกับ วีคอมบ์ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 3-5-2
เกมเริ่มมาได้ 10 นาที “เรือใบสีฟ้า” ได้บุกทักทายก่อน
จากจังหวะบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาของ ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลข้ามแนวรับ วีคอมบ์ เข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิง สอดขึ้นมาในกรอบ 6 หลาแต่จังหวะยิงวืดอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 13 วีคอมบ์ ตอบโต้บ้าง
จากจังหวะของ เจสัน แม็คคาร์ธี่ ขึ้นมาทางฝั่งขวาวางบอลเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง อเดบาโย อคินเฟว่า ขึ้นโหม่งบอลชงมาให้ ซัลเลย์ ไคไค โหม่งเน้น ๆ แต่บอลยังไปติดเซฟ แซค สเตฟเฟ่น บินปัดทิ้งไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาทีที่ 17 เดวิด สต็อคเดล ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะประสานงานทางฝั่งขวา ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดขึ้นหน้ามาหน้ากรอบเข้าเขตโทษจ่ายต่อให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้ขึ้นโหม่งหน้ากรอบ บอลยังไปตรงตัว เดวิด สต็อคเดล ล้มตัวรับเอาไว้ได้
นาทีที่ 20 วีคอมบ์ พลาดโอกาสทอง
จากความสามารถเฉพาะตัวของ จอร์แดน โอบิต้า กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายได้ช่องยิงเต็มข้อ บอลไปติดเซฟ แซค สเตฟเฟ่น ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 21 วีคอมบ์ ทำช็อกมาได้ประตูทะยานออกนำไปก่อน
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาบอลชุลมุนหน้าประตูสุดท้ายบอลไปเข้าทาง ไรอัน ทาฟาซอลลี่ หมุนตัวตวัดบอลลอดขาแนวรับ แมนฯ ซิตี้ บอลมาเข้าทาง แบรนดอน ฮันแลน แปง่าย ๆ เข้าไปไม่พลาด วีคอมบ์ ออกนำไปก่อน 0-1
นาทีที่ 29 “เรือใบสีฟ้า” ตามตีเสมอทันควัน
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น โชว์ลีลากระชากบอลแหวกขึ้นมาก่อนได้ช่องจ่ายออกซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ เติมมาในเขตโทษโยกตัดเข้าในยิงด้วยขวาบอลพุ่งลอดขา แนวรับ วีคอมบ์ เสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 33 โชคยังเข้าข้าง วีคอมบ์ อยู่
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น กระชากบอลหนีแนวรับ วีคอมบ์ ก่อนไหลย้อนมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากตัดเข้าในก้มหน้าปั่นด้วยขวาบอลโค้งไปชนเสาก่อนเด้งมาชนหลัง เดวิด สต็อคเดล หยุดอยู่หน้าปากประตูรอกพ้นการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 43 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูพลิกแซง
จากจังหวะทางซ้ายของ จอร์จ วิลสัน กระชากเข้าเขตโทษเอาชนะ เจสัน แม็คคาร์ธี่ ก่อนตบย้อนมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่พลาด แมนซิตี้ พลิกขึ้นนำ 2-1
นาทีที่ 45 “เรือใบสีฟ้า” ได้ใจบวกสกอร์เพิ่มทันที
จากลูกเตะมุมเล่นสั้นทางฝั่งขวาของ ริยาด มาห์เรซ จ่ายบอลเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น ก่อนตั้งป้อมกดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปติดเซฟ เดวิด สต็อคเดล บอลน้ำหนักแรงปัดไม่พ้นพุ่งซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แมนซิตี้ นำห่าง 3-1
จบครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ ออกนำ วีคอมบ์ ไปก่อน 3-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าถึงแม้จะพลาดโดนทำประตูออกนำไปก่อน แต่ก็รัวแซงได้ช่วงท้ายครึ่งแรก ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 60 แมนฯ ซิตี้ พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ กระชากบอลแหวกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายพาบอลเข้าเขตโทษก่อนจะกดด้วยขวาแต่บอลยังเบาไปตรงตัว เดวิด สต็อคเดล ล้มตัวรับไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 69 “เรือใบสีฟ้า” เกือบพลาดท่า
จากจังหวะแนวรับแมนซิตี้กะพลาดปล่อยให้ จอร์แดน โอบิต้า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนจะบรรจงยิงด้วยขวาแต่ แซค สเตฟเฟ่น ยังอ่านเกมออกมาปิดมุมช่วยเซฟไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 71 แมนซิตี้ ยังไม่ผ่อนเกมรุก
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลไปให้ ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนปาดบอลเรียดไปเสาไกลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส เข้าชาร์จจ่อ ๆ ด้วยขวาบอลเบียดเสาเข้าไปไม่พลาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 4-1
นาทีที่ 81 “เรือใบสีฟ้า” ขยับทิ้งห่างเป็น 5-1
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ โชว์เหนือจ่ายบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้ามาทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนไปให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งเข้ามาแปเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนีห่าง 5-1
นาทีที่ 89 เจ้าบ้าน มาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของ โคล พัลเมอร์ กระชากบอลแหวกขึ้นหน้สมาจากครึ่งสนามก่อนเอียงตัวปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งผ่านมือ เดวิด สต็อคเดล เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนซิตี้ นำโด่ง 6-1
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ วีคอมบ์ ไปได้ 6-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดพับสนามบุกเอาชนะไปได้ไม่ยากผ่านเข้าสู่รอบต่อไป