การแข่งขันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-5-2
เกมเริ่มเล่นมาได้เพียง 3 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ ซาดิโอ มาเน่ เปิดบอลเข้าเขตโทษแนวรับ นิวคาสเซิ่ล เคลียร์ไม่ขาดบอลไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หมุนตัวกดด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่ายเข้าประตูไปอย่างรวดเร็ว ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
นาทีที่ 20 อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องออกแรง
จากจังหวะของ จอนโจ้ เชลวี่ วางบอลยาวข้ามแนวรับ หงส์แดง ให้กับ ฌอน ลองสตาฟฟ์ หลุดเข้ามาในเขตโทษก่อนได้ช่องซัดด้วยซ้ายระยะเผาขนที่เสาแรก แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังไวปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 23 หงส์แดงยังเดินยังครองบอลบุก
จากจังหวะของ ติอาโก้ ไหลบอลให้ ดีโอโก้ โชต้า บริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจบรรจงยิงด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 36 ซาลาห์ พลาดโอกาสสำคัญ
จากจังหวะของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เปิดบอลเร็วมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงได้ไม่ดีพอถูก มาร์ติน ดูบราฟก้า ออกมาปิดมุมได้เร็วและช่วยเซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 44 แนวรุกหงส์แดงผลัดกันได้ลุ้นพังประตู
จากจังหวะของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำเกมขึ้นมาสูงเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้โอกาสซัดตามน้ำบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ นิวคาสเซิ่ล อยู่ 1-0 รูปเกมเป็นทางเจ้าบ้าน หงส์แดง ที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดทั้งจังหวะการครองบอลและสร้างสรรค์จังหวะจบสกอร์แต่ก็ยังหาประตูฝังไม่ได้ทำให้เกมยังไม่ขาด ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 48 มาร์ติน ดูบราฟก้า ยังยืนตำแหน่งดี
จากจังหวะของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เก็บบอลได้บริเวณหัวกระโหลกก่อนพลิกมายิงด้วยซ้ายแต่น้ำหนักยังเบาและบอลยังไปตรงตัวของ มาร์ติน ดูบราฟก้า รับเข้าซองได้ไม่ยาก
นาทีที่ 55 โชลินตอน พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะของ โชลินตอน หลบแนวรับ ลิเวอร์พูล หลุดเข้าเขตโทษทางด้านขวาแต่งบอลก่อนซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังพุ่งปัดทิ้งออกไปได้ทันเวลา
นาทีที่ 64 “หงส์แดง” ยังเป็นฝ่ายที่บุกกดดัน
จากจังหวะของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาสูงก่อนจะได้ช่องวางเท้ายิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียดแต่ทิศทางยังไม่ดีพอบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 80 ซาดิโอ มาเน่ ยังพังประตูให้ตัวเองไม่ได้
จากจังหวะบอลมาเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บริเวณกลางสนามเปิดบอลเร็วให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษทางฝั่งซ้ายแต่งบอลกดด้วยซ้ายบอลพุ่งกำลังจะเสียบเสาแรก แต่ มาร์ติน ดูบราฟก้า ยังเหนียวโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดมือเดียวออกไปหวุดหวิด
นาทีที่ 90+3 แฟน “สาลิกาดง” เฮเก้อ
จากจังหวะของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง แทงทะลุช่องให้ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดแต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ออกมาไวปัดเอาไว้ได้แต่บอลกระดอนไปโดนแขน คัลลั่ม วิลสัน ก่อนจะตามซ้ำเข้าประตูไป ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์และมองว่าเป็นแฮนด์บอลของ วิลสัน ไม่ให้เป็นประตู
นาทีที่ 90+6 นิวคาสเซิ่ล ทำเกมดราม่าตามตีเสมอท้ายเกม
จากจังหวะบอลวางยาวมาในกรอบเขตโทษและเป็น แมตต์ ริตชี่ ที่พยายามขึ้นโหม่งก่อนบอลจะมาเข้าทาง โจ วิลล็อต ได้ยิงด้วยขวาจ่อ ๆ บอลไปแฉลบ ฟาบินโญ่ ส่งบอลตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ นิวคาสเซิ่ล ไล่มา 1-1
จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ไป 1-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางเจ้าบ้านลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่าแต่แนวรุกใช้โอกาสกันเปลืองทำประตูทิ้งห่างไม่ได้ทำให้มาโดนลงโทษช่วงท้ายเกมชวดสามแต้มสำคัญไป ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล มี 54 อยู่อันดับ 6 และทางด้าน นิวคาสเซิ่ล มี 36 คะแนน อยู่อันดับ 15
เกมนัดถัดไปของ ลิเวอร์พูล พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2021 และทางด้าน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบกับ อาร์เซ่นอล ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2021