จุดโทษโหดกว่า! แมนยู เข้าชิงดำ แม่นโทษชนะดวลเป้า ไบร์ทตัน

สนาม: เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา เกมนี้เป็นการพบกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน โดยเตะกันที่สนามกลางที่ เวมบลีย์

เกมเริ่มมา 5 นาที ไบร์ทตัน ได้ลุ้นก่อน อันโตนี่ ไปทำ มิโตมะ ร่วงลงหน้ากรอบเขตโทษแล้ว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซัดปั่นโค้ง 20 หลา แต่ไม่ผ่านมือ เด เคอา ปัดไว้ได้

นาที 14 ปีศาจแดง ได้ลุ้นบ้าง เอริคเซ่น ไหลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดด้วยขวา แต่ไม่ผ่านมือของ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดทิ้งออกไปได้

นาที 31 คาโอรุ มิโตมะ ลากบอลหนี วาน-บิสซาก้า ก่อนจะตัดเข้ากลางแล้วเตรียมซัด ทว่า วาน-บิสซาก้า เข้ามาบล็อกขวางไว้ได้ก่อน

หมดครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมานาที 57 อดัม เว็บสเตอร์ ขึ้นโขกจากลูกเตะมุม แต่ กาเซมีโร่ อ่านทางดีกว่าแล้วเคลียร์ทิ้งออกไป ก่อนที่จะเป็น คาโอรุ มิโตมะ เก็บตกแล้วซัดไปติดบล็อกแล้วเข้าทาง เอ็นซิโซ่ สวยเข้าไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ เด เคอา เซฟไว้ได้

นาทีที่ 60 ไบร์ทตัน โหมหนักต่อเนื่อง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ถ่ายบอลออกขวาให้ โซลลี่ มาร์ช จับบอลแล้วกระชากเข้าไปยิงยัด แต่ไม่ผ่าน เด เค อาอีกครั้ง

นาทีที่ 83 โซลลี่ มาร์ช เลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวาแล้ว ยิงเต็มข้อ แต่ก็ไม่ผ่าน ดาบิด เดอ เคอา ยังเซฟไว้ได้

จบเกมการแข่งขัน 90 นาที เสมอกัน 0-0

ช่วงเวลาที่เหลือแม้จะต่อเวลาก็ยังไม่มีทีมไหนที่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้ ก่อนจะต้องตัดสินกันที่การดวลลูกจุดโทษ แล้วเป็นทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่ายิงเข้าไปด้วยสกอร์ 7-6 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 3 มิถุนายน นี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีมที่ลงสนาม

ไบร์ทตัน (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – ปาสกาล กรอสส์, อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, เปร์วิส เอสตูปีญาน – มอยเซส ไกเซโด้, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โซลลี่ มาร์ช, ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ (โยเอล เฟลท์มัน น.67), คาโอรุ มิโตมะ – แดนนี่ เวลเบ็ค (เดนนิส อูดาซ น.75)

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.101), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, ดีโอโก้ ดาโลต์ – กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น (เฟร็ด น.62)- อันโตนี่ (มาร์เชล ซาบิตเซอร์ น.91), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (เวาท์ เว็กฮอร์สต์ น.101), มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (จาดอน ซานโช่ น.85)