ตามคาด “ราชันชุดขาว” ไม่พลาด!! ไล่ขยี้ บิลเบา ชูถ้วยซูเปร์โกปา

การแข่งขันศึกฟุตบอลซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง เรอัล มาดริด ลงสนามพบกับ แอธเลติก บิลเบา เกมนี้ เรอัล มาดริด ลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้าน แอธเลติก บิลเบา มาสู้ในระบบ 4-4-2

เกมเริ่มมาได้ 18 นาที เรอัล มาดริด ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะของ โรดรีโก้ จ่ายบอลฝากไปให้ คาริม เบนเซม่า ได้บรรจงยิงหน้ากรอบเขตโทษ บอลลอยเด้งออกข้างเสาซ้ายไปแบบมีลุ้น

นาทีที่ 19 เรอัล มาดริด บุกกดดันต่อเนื่อง

จากจังหวะของ ลูก้า โมดริช จ่ายบอลไปให้ โทนี่ โครส วางบอลเข้าไปหน้าปากประตูก่อนจะเป็น แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ขึ้นโหม่งแต่ก็ยังโดนไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 27 อูไน ซิม่อน ยังยืนปิดมุมได้ดี

จากจังหวะของ กาเซมีโร่ พาบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะยิงนอกกรอบบอลเกือบมุดเสาแรก แต่ อูไน ซิม่อน ยังล้มตัวปัดออกหลังไปได้ทันเวลา

นาทีที่ 28 เกมรุกยังเป็นของฝั่ง ราชันชุดขาว

จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ โทนี่ โครส เปิดบอลเข้ามาหน้าปากประตูและเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ ขึ้นโหม่งบอลย้อยเหมือนจะเข้าประตูแต่ อูไน ซิม่อน ยังปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 38 เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้

จากจังหวะของ โรดรีโก้ ลากบอลจากขวาตัดเข้ามากลางไหลไปบริเวณเส้นกรอบเขตโทษให้ ลูก้า โมดริช วิ่งมาปั่นบอลโค้งข้ามตัว อูไน ซิม่อน นายด่านคู่แข่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ แอธเลติก บิลเบา ไปก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า จนสามารถทำประตูขึ้นนำไปก่อน ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 50 เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

จากจังหวะของ ลูกัส บาซเกซ ไหลบอลเข้ามาในเขตโทษให้ คาริม เบนเซม่า ซัดเต็มข้อบอลเด้งไปโดนมือ เยราย อัลบาเรซ ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ก่อนจะมอบจุดโทษให้กับ เรอัล มาดริด และเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่สังหารส่งบอลเข้าประตูไปไม่พลาด เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0

นาทีที่ 76 แอธเลติก บิลเบา เปิดเกมแลก

จากจังหวะของ ยูริ เบร์ชีเช่ วางบอลข้ามไปที่เสาสองด้านขวาบอลถึง ราอูล การ์เซีย กับ เยราย อัลบาเรซ ดันเบียดแย่งกันเองทำให้บอลพุ่งไปชนข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 82 ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังยืนตำแหน่งได้ดี

จากจังหวะของ นิโก เซร์ราโน่ พาบอลลุยขึ้นมาหน้าปากประตูก่อนจะได้โอกาสส่องไกลนอกกรอบ บอลพุ่งแรง แต่ก็ยังไปติด ติโบต์ กูร์กตัวส์ ย่อตัวรับเอาไว้ได้แบบไม่มีปัญหา

นาทีที่ 87 แอธเลติก บิลเบา มาได้จุดโทษ

จากจังหวะของ ยูริ เบร์ชีเช่ วางบอลโด่งเข้ามาหน้าประตู ราอูล การ์เซีย โหม่งระยะเผาขนบอลไปชนมือ เอแดร์ มิลิเตา ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ก่อนจะมาให้จุดโทษพร้อมให้ใบแดงกับ เอแดร์ มิลิเตา และเป็น ราอูล การ์เซีย ที่รับหน้าที่สังหาร แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังใช้เท้าสกัดเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ 

จบเกม เรอัล มาดริด ไล่อัด แอธเลติก บิลเบา ไปได้ 2-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า และสร้างจังหวะจบสกอร์ได้น้ำได้เนื้อมากกว่า ทำให้เกมนี้ ราชันชุดขาว เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ซูเปร์โกปาสมัยที่ 12 ไปครอง