“บิ๊กแมตช์” กินกันไม่ลง เรือใบสีฟ้า เปิดบ้านเจ๊า หงส์แดง ไปแบบสุดมันส์ 2-2

การแข่งขันในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3

เริ่มเกมมาได้ 5 นาที “เรือใบสีฟ้า” ชิงขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว 

จากจังหวะลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษก่อน แบร์นาโด้ ซิลวา จะเล่นเร็วจ่ายบอลไปให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากเข้ามาแล้วอัดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ โฌแอล มาติป พุ่งไปชนเสาด้านในเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล ไม่ปล่อยให้นำนานมาไล่ตีเสมอคืนได้สำเร็จ 

จากจังหวะของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลไปเสาไกลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมมาแปะคืนเข้ากลางให้กับ ดีโอโก้ โชต้า ได้โอกาสยิงจ่อ ๆ  เอแดร์ซอน โมราเอส พยายามปัดแต่ไม่พ้นบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ไล่ตาม 1-1

นาทีที่ 25 เจ้าบ้าน ทำเกมรุกลุยขึ้นมาเกือบได้เพิ่ม

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกไปให้ โรดรี้ หลุดกับดักล้ำหน้าโหม่งเข้ากลางให้ จอห์น สโตนส์ พยายามพุ่งตามชาร์ทแต่ไม่ทันบอลหลุดหลังออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 29  เดอ บรอยน์ พลาดโอกาสทอง

จากจังหวะของ กานเซโล่ จ่ายบอลหักคืนมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ในเขตโทษก่อนจับด้วยซ้ายแล้วอัดด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาแรกออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 36 แมนซิตี้ ทะยานขึ้นนำอีกครั้ง

จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ชูเอา กานเซโล่ เปิดด้วยขวามาเสาไกลให้ กาเบรียล เชซุส อ้อมหลัง เทรนท์ หลุดเข้าไปยิงบอลพุ่งผ่านตัว อลีสซง เข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำอีกครั้ง 2-1

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ ลิเวอร์พูล ไปก่อน 2-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่า ทำให้ชิงความได้เปรียบไปก่อน ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาที “หงส์แดง” ตามตีเสมอทันควัน 

จากบอลทางฝั่งขวาของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายเข้ามาหน้ากรอบ 18 หลาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงได้ช่องจ่ายทะลุเข้าเขตโทษข้ามไปเสาไกลถึง ซาดิโอ มาเน่ สอดมายิงสวนตัว เอแดร์ซอน โมราเอส บอลพุ่งตุงตาข่ายเข้าไปไม่พลาด ลิเวอร์พูล ไล่เจ๊า 2-2

นาทีที่ 52 ลิเวอร์พูล เริ่มทำเกมได้ดูดีกว่า

จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เบิ้ลบอลออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าดีดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษโค้งมาถึง ดีโอโก้ โชต้า เหยียดขาชาร์จไปติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส ปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 60 “เรือใบสีฟ้า” เดินหน้าบุกไม่กลัว

จากจังหวะของ ชูเอา กานเซโล่ วางบอลเข้าเขตโทษข้ามหัว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส โยกตัดเข้าในยิงบอลผ่าน อลีสซง เบ็คเกอร์ ไปแล้วแต่ยังไปติดบล็อค เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ช่วยเซฟให้ทีมเอาไว้ได้

นาทีที่ 63 เจ้าบ้านเกือบทะยานออกนำ 

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลออกขวาไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงบอลลอดขา อลีสซง เบ็คเกอร์ ตุงตาข่ายเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเช็ค วีเออาร์ ก่อนจะเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

นาทีที่ 70 ซาลาห์ เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด

จากจังหวะประสานงานหน้าเขตโทษของ ซาดิโอ มาเน่ จ่ายหักข้อยกออกขวาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลในเขตโทษโยกเข้าในปั่นด้วยซ้ายบอลแฉลบต้นขา อายเมริค ลาปอร์กต์ หลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 73 กาเบรียล เชซุส พลาดโอกาสสำคัญ

จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บบอลได้ก่อนจะไหลมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลเร็วออกขวาให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้ามาในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายยิงยัดเสาแรกบอลหลุดออกหลังอย่างน่าผิดหวัง

นาทีที่ 90+1 เรือใบสีฟ้า เกือบมาได้ประตูชัย

จากจังหวะสวนกลับ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลแหวกหนีขึ้นมาจ่ายออกขวาถึง ริยาด มาห์เรซ ดึงหนีแนวรับ ลิเวอร์พูล ก่อนจะยกข้ามหัว อลีสซง เบ็คเกอร์ บอลข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ ลิเวอร์พูล ไป 2-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่า แต่จังหวะเข้าทำสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ ทำให้จบลงด้วยกันแบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 74 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน ลิเวอร์พูล มี 73 คะแนน อยู่อันดับที่ 2