การแข่งขันฟุตบอลในศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง บียาร์เรอัล ลงสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ บียาร์เรอัล ลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาสู้ในระบบ 4-2-3-1
เกมเริ่มมาได้ 7 นาที “ปีศาจแดง” ได้บุกทักทายก่อน
จากจังหวะของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ไม่มีมุมยิงจ่ายคืนหลังมาให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ตั้งป้อมกดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 16 บียาร์เรอัล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านซ้ายเล่นสั้นมาถึง ดานี่ ปาเรโฆ เปิดบอลมาเสาไกลให้ มานู ตริเกรอส วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาแต่ยิงโดนไม่ถนัดบอลเหินโด่งข้ามคานออกหลังไปไกล
นาทีที่ 20 แมนยู บุกกดดันต่อเนื่อง
จากจังหวะของ แอรอน แวน-บิสซาก้า เปิดบอลไปโดน อัลบิโอล แนวรับเจ้าบ้านสกัดออกมา บอลไปเข้าทาง ลุค ชอว์ วิ่งมากดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลผ่านหน้าปากประตูหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 22 “เรือดำน้ำสีเหลือง” เปิดเกมแลก
จากจังหวะของ การ์ลอส บัคก้า พาบอลลุยขึ้นมาถึงเส้นหลังก่อนไขว้เปิดด้วยขวาเข้าไปให้ เปา ตอร์เรส ได้โหม่งบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 29 บียาร์เรอัล ชิงพังประตูออกนำไปได้ก่อน
จากจังหวะลูกฟรีคิกของ ดานี่ ปาเรโฆ่ เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบให้ เคราร์ด โมเรโน่ สอดเข้าไปเบียดกับ ลินเดอเลิฟ ก่อนล้มตัวแปด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปไม่เหลือ บียาร์เรอัล ออกนำ 1-0
นาทีที่ 45+1 ผีแดงเกือบมาได้ประตูตีเสมอ
จากจังหวะของ เมสัน กรีนวู้ด พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปหน้าประตูบอลไปโดน ราอูล อัลบิโอล เปลี่ยนทาง แต่ คโรนิโม่ รูยี่ นายด่านเรือดำน้ำสีเหลืองยังรับเอาไว้ได้ไม่ยาก
จบครึ่งแรก บียาร์เรอัล ขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 รูปเกมทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรับผลัดกันรุกอยู่ตลอดต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง เกมยังออกได้หลายหน้า
นาทีที่ 56 “ผีแดง” มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จ
จากจังหวะของ ลุค ชอว์ เปิดบอลไปโดน ราอูล อัลบิโอล สกัดออกมาบอลมาเข้าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนจะยิงจากแถวสองซ้ำเข้าไปบอลไปติด อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า ก่อนกระดอนไปชน แม็คโทมิเนย์ แล้วมาเข้าทาง เอดินสัน คาวานี่ กดด้วยขวาจ่อ ๆ ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไปไม่เหลือ แมนยู ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 70 แมนฯยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทอง
จากจังหวะของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลเข้าไปหน้าประตูให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาแปบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 79 “ผีแดง” เปิดเกมรุกบดอย่างหนัก
จากจังหวะของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พาบอลถึงเส้นหลังแล้วปาดเรียดมาเสาแรกให้ เอดินสัน คาวานี้ พยายามจะไขว้แต่ไม่โดนไปติดแนวรับบียาร์เรอัลก่อนออกหลังไปหวุดหวิด
นาทีที่ 89 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นอีกหน
จากจังหวะของ ลุค ชอว์ เติมเกมขึ้นมาก่อนจะเปิดบอลไปกลางประตูให้ ปอล ป็อกบา สอดเข้ามาโหม่งแต่บอลหลุดข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกมเสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาแชมป์ทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกสู้กันได้อย่างมันส์แต่ในช่วงครึ่งเวลาหลังเป็นทาง แมนยู ที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่าแต่ก็ยังชิงทำประตูออกนำไม่ได้
นาทีที่ 99 บียาร์เรอัล ได้สวนขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ มอย โกเมซ พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายออกซ้ายให้ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ วิ่งมายิงด้วยซ้ายแบบไม่จับแต่บอลหลุดเสาแรกออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
จบช่วงต่อเวลาพิเศษต่างฝ่ายต่างก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ต้องมาลุ้นจุดโทษกันต่อเพื่อหาทีมได้แชมป์ ซึ่งผลปรากฎว่า 10 คนแรกของทั้งสองทีมยิงได้อย่างแม่นยำส่งบอลเข้าก้นตาข่าย ก่อนคนที่ 11 ของ บียาร์เรอัล จะวนมาที่ เคโรนิโม่ รูยี่ นายด่านบียาร์เรอัลที่ยิงเข้าไปก่อน และโยนความกดดันมาให้ ดาบิด เด เคอา นายด่านชาวสเปนยิงไม่ดีซัดไปติดมือของ เคโรนิโม่ รูยี่ ส่งผลให้ บียาร์เรอัล คว้าแชมป์ยูโรปาลีกเป็นสมัยแรกไปเรียบร้อย