การแข่งขันในศึกฟุตบอล คาราบาวคัพ นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง เชลซี ลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าเชลซีลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และทางด้านลิเวอร์พูลมาสู้ในระบบ 4-3-3
เกมเริ่มมาได้ 6 นาที “สิงห์บลูส์” พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะบอลขึ้นทางฝั่งซ้าย ไค ฮาแวร์ตซ์ ขยับมาเก็บบอลพาบอลแหวกเข้าในก่อนจ่ายออกขวาไปให้ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า สอดมาจ่ายเข้าในถึง คริสเตียน พูลิซิช ตั้งเท้าชาร์จจ่อ ๆ ควีวิน เคลเลเฮอร์ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 15 ลิเวอร์พูล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้าเขตโทษมาให้ ซาดิโอ มาเน่ โฉบมาโหม่งเน้น ๆ บอลหลุดออกหลังไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 22 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นพังประตู
จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งขวาของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เขี่ยบอลเปลี่ยนจุดให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านบล็อคแต่ยังหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 30 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสสำคัญ
จากจังหวะของ นาบี เกอิต้า สอดมารับบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะก้มหน้ายิงด้วยขวาบอลติดไซค์ก้อย แต่ก็ยังไม่ผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ พุ่งตะปปบอลมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ตามซ้ำจ่อ ๆ บอลไปติด เอดูอาร์ เมนดี้ ลุกมาเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 34 “หงส์แดง” เกือบงานเข้า
จากจังหวะของ โฌแอล มาติป เสียตำแหน่งโดนสวนกลับเร็ว มาเตโอ โควาซิช จ่ายบอลทะลุช่องให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษยกบอลข้าม ควีวิน เคลเลเฮอร์ บอลหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดายก่อนมีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา
นาทีที่ 44 แฟนบอล เชลซี เกือบได้เฮ
จากจังหวะของ คริสเตียน พูลิซิช แย่งบอลไปได้ก่อนจะพาบอลสวนกลับขึ้นมาพาบอลแหวกจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งขวาถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ ยกเร็วเข้าในให้ เมสัน เม้าน์ท โฉบมายิงตามน้ำหน้ากรอบบอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างเหลือเชื่อ
จบหมดครึ่งเวลาแรก เชลซี ยังเสมอกับ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 0-0 รูปเกมทั้งสองทีมยังเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่ตลอดเวลา ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 49 เชลซี ยังเดินหน้าหาประตูขึ้นนำ
จากจังหวะบอลหน้าเขตโทษทางฝั่งขวา คริสเตียน พูลิซิช ยกบอลแฉลบเข้าเขตโทษย้อยไปมาถึง เมสัน เม้าน์ท หลุดเข้ามาก้มหน้าแปบอลผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไปชนเสาเด้งผ่านหน้าประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 56 ลิเวอร์พูล ลุยขึ้นมาลุ้นจบสกอร์
จากความสามารถเฉพาะตัวของ หลุยส์ ดิอ๊าซ กระชากบอลหนีขึ้นมาทางฝั่งซ้ายแตะเข้าเขตโทษดึงได้ช่องยิงยัดเสาแรกบอลไปติดบล็อค เทรโวห์ ชาโลบาห์ ตามมาช่วยบล็อคได้ทันเวลา
นาทีที่ 64 “หงส์แดง” ขึงเกมบุกเอาไว้ได้ดีกว่า
จากจังหวะของ เอดูอาร์ เมนดี้ ออกบอลพลาดบอลไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลเร็วสวนออกซ้ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดแตะบอลเข้าเขตโทษยกข้าม เอดูอาร์ เมนดี้ เด้งหาปากประตูแต่โดน ติอาโก้ ซิลวา ตามมาหวดทิ้งออกไปได้ทันเวลา
นาทีที่ 67 แฟนบอล ลิเวอร์พูล เฮเก้อ
จากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หยอดบอลเข้ากรอบลึกมาเสาไกลถึง ซาดิโอ มาเน่ โหม่งชงบอลกระดอนพื้นย้อนไปเข้าทาง โฌแอล มาติป ตามมาโหม่งเสยเพดานตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 75 “หงส์แดง” เร่งเครื่องต่อเนื่อง
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทิ้งบอลสวนออกซ้ายไปถึง หลุยส์ ดิอ๊าซ ลากจี้เข้าเขตโทษหนี เทรโวห์ ชาโลบาห์ ยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกบอลไปติดขา เอดูอาร์ เมนดี้ เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้
นาทีที่ 77 เชลซี ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
จากจังหวะสวนกลับของ ติโม แวร์เนอร์ ขยับมารับบอลในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนยกบอลไปเสาไกลถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งบอลไปติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไหลเข้าประตูแต่ก็ยังเป็นจังหวะล้ำหน้า
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ
จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นบอลโค้งมาเสาไกลเข้าทาง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ขึ้นดีกว่าแนวรับ เชลซี โหม่งบอลเต็มหัวพุ่งไปเสาไกลก็ยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ รับเอาไว้ได้ไม่ผ่าน
นาทีที่ 90+5 ควีวิน เคลเลเฮอร์ เซฟสำคัฯท้ายเกม
จากจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ หนีขึ้นมาสุดเส้นฝั่งซ้ายเปิดบอลเข้าเขตโทษบอลมาเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ชาร์จเปลี่ยนทางไม่ถึง 5 หลาโชคดี ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไม่เหม่อใช้เท้าเซฟเอาไว้ได้
หมดเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ที่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาทีเพื่อหาผู้ชนะ
นาทีที่ 105 วีเออาร์ ริบสกอร์คืนจาก เชลซี
จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู หลุดขึ้นมาจากครึ่งสนามกระชากเข้าเขตโทษดึงหลอก อิบราฮิม่า โกนาเต้ ยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกตุงตาข่ายเสียดายโดน วีเออาร์ จับล้ำหน้าไปอีกหน
นาทีที่ 114 เชลซี บุกกดดันได้ดุดันกว่า
จากจังหวะของ ไค ฮาแวร์ตซ์ หนีมารับบอลในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนจะยิงบอลผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม แต่โดน วีเออาร์ จับล้ำหน้าไปอีกหน
จบช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที เชลซี 0 ลิเวอร์พูล 0 ต้องยิงจุดโทษหาแชมป์สุดท้ายเป็น ลิเวอร์พูล แม่นกว่าเบียดเอาชนะไปได้ (11-10) ซิวแชมป์คาราบาว คัพ สมัยที่ 9 ของสโมสรในรอบ 10 ปีสำเร็จ