การแข่งขันในเกมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง ลิเวอร์พูล ลงสนามพบกับ คริสตัล พาเลซ โดยเกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 5-4-1
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้ 58 วินาที “หงส์แดง” ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขยับมาเก็บทางฝั่งขวาเปิดบอลเข้าเขตโทษลึกไป บิเซนเต้ กัวอิต้า ชกออกมาเข้าทาง เจมส์ มิลเนอร์ สอดมายิงได้ช่องยิงด้วยซ้ายบอลปลิ้นข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 8 ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องเต็มสูบ
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เก็บตกในเขตโทษฝั่งขวาเปิดบอลข้ามมาเสาไกลให้ ดาร์วิน นูนเญซ ตั้งเท้าตวัดไปในกรอบ 6 หลาแบบไร้ตัวประกบบอลปลิ้นหลังเท้าหลุดข้ามคานออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 17 หงส์แดง โหมบุกดัน
จากจังหวะของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นสูงหลุดกับดักล้ำหน้าตามมาเก็บบอลแต่งเข้าเขตโทษยิงไปติดบล็อค โจเอล วอร์ด เด้งมาเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ หมุนได้ช่องยิงอีกรอบก็ยังแฉลบย้อยเข้ามือ บิเซนเต้ กัวอิต้า รับเอาไว้ได้
นาทีที่ 22 ซาลาห์ พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปาดบอลเรียดเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตั้งเท้าชาร์จด้วยซ้ายข้างถนัดบอลหลุดเสาแรกอย่างน่าผิดหวัง
นาทีที่ 30 เกมรุกยังคงเป็นของ หงส์แดง
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หุบเข้ามาเล่นตรงกลางก่อนจะหมุนตัวเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษข้ามหัวแนวรับเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ โหม่งเน้น ๆ บอลก็ยังไปตรงตัว บิเซนเต้ กัวอิต้า เหมือนเดิม
นาทีที่ 32 กลายเป็น คริสตัล พาเลซ พลิกขึ้นนำ
จากจังหวะบอลสวนกลับของ บิเซนเต้ กัวอิต้า เปิดบอลทิ้งขึ้นมาเข้าทาง เอเบเรซี่ เอเซ่ เก็บบอลได้ก่อนจะแหวกไหลบอลมาเข้าเท้า วิลฟรีด ซาฮา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายเอียงตัวปั่นด้วยขวาเสียบโคนเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม คริสตัล พาเลซ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 43 บิเซนเต้ กัวอิต้า ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลออกขวาไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใช้ความเร็วตามมาเก็บตวัดเร็วมาหน้ากรอบเข้าทาง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตั้งหัวโขกแต่ก็ยังไปตรงตัว บิเซนเต้ กัวอิต้า รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 45+3 ดาร์วิน นูนเญซ เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด
จากจังหวะของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตามมาเก็บตกบอลตรงกลางตวัดหยอดออกซ้ายไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ พักอกหน้ากรอบเอียงตัวปั่นด้วยขวาเสียดายโดนไม่เต็มบอลติดไซค์ไปชนเสาไกลเด้งออกมา
จบครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง คริสตัล พาเลซ อยู่ที่ 0-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าแต่ก็ยังขาดความเฉียบคมต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 48 “หงส์แดง” พลาดโอกาสทอง
จากจังหวะของ ดาร์วิน นูนเญซ สอดมารับบอลในเขตโทษได้โอกาสยิงเน้น ๆ บอลผ่านมือ บิเซนเต้ กัวอิต้า แต่โชคดีที่ โจเอล วอร์ด ยังทิ้งตัวช่วยบล็อคไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน
จากจังหวะของ ดาร์วิน นูนเญซ คุมอารมณ์ไม่ได้เสียเหลี่ยมไปเจตนานอกเกมใช้หัว เฮดบัตต์ โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น ผู้ตัดสินไม่รอช้าชูใบแดงไล่ออกจากสนามแบบไม่ลังเล ลิเวอร์พูล เหลือ 10 คน
นาทีที่ 61 เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้
จากความสามารถเฉพาะตัวของ หลุยส์ ดิอาซ พาบอลแหวกแนวรับ คริสตัล พาเลซ ทั้งแผงดึงได้ช่องปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษโค้งหนีบล็อคพุ่งผ่านมือ บิเซนเต้ กัวอิต้า ซุกหน้าต่างเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล ไล่เจ๊า 1-1
นาทีที่ 78 คริสตัล พาเลซ น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง
จากจังหวะของ ชีค ดูกูเร่ หนีมารับบอลในเขตโทษฝั่งขวาก่อนปาดข้ามมาเสาไกลให้ วิลฟรีด ซาฮา สอดมาดีดด้วยขวาบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 87 เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูชัย
จากจังหวะของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลได้หน้ากรอบก่อนจะตวัดด้วยซ้ายตามน้ำบอลโค้งผ่านมือ บิเซนเต้ กัวอิต้า ถากโคนเสาแรกหลุดออกไปนิดเดียว
จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ คริสตัล พาเลซ ไปที่ 1-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าถึงแม้ผู้เล่นจะน้อยกว่าแต่ก็ยังไม่ได้พอที่จะเก็บสามแต้มในบ้านไปได้ ทำได้เพียงเสมอกันไปในที่สุด ลิเวอร์พูล ยังหาชัยชนะนัดแรกไม่เจอ