การแข่งขันฟุตบอล ฟุตบอล ยูโร ยู-21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ฮอลแลนด์ ลงสนามพบกับ ฝรั่งเศส เกมนี้ ฮอลแลนด์ ลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้าน ฝรั่งเศส มาสู้ในระบบ 4-4-2
เปิดเกมเริ่มมาได้ 12 นาที “ตราไก่” ต้องมาเสียผู้เล่นคนสำคัญไปอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ โกแล็ง ดักบา เติมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนไปเข้าปะทะกับ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายของฮอลแลนด์ก่อน โกแล็ง ดักบา จะเล่นต่อไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนเอา ปิแอร์ กาลูลู ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 19 เป็น ฮอลแลนด์ ได้บุกทักทายก่อน
จากจังหวะของ คัลวิน สเตงส์ กระชากทำเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะลากพาบอลตัดเข้าในซัดด้วย ซ้ายบอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 23 ฝรั่งเศสเกือบได้ลุ้นบ้าง
จากจังหวะของ บูบาการี่ ซูมาเร่ จ่ายบอลมาให้ โชนาต็อง อิโกเน่ พลิกบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยซ้ายระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งติดปลายมือ จัสติน ไบจ์โลว์ ปัดข้ามคานออกไปหวุดหวิด
นาทีที่ 24 “ตราไก่” ชิงทำประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้
จากจังหวะลูกเตะมุมของ มูสซ่า ดิยาบี้ เปิดบอลเข้ามาให้ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ได้ขึ้นโหม่งบอลหนีมือ จัสติ ไบจ์โลว์ เข้าไปไม่พลาด ฝรั่งเศส ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 33 ตราไก่ ได้ลุ้นทำประตูอีกหน
จากจังหวะของ มูสซ่า ดิยาบี้ ทำเกมขึ้นมาก่อนเปิดบอลเข้าไปในกรอบให้ ฮุสเซม อาอูอาร์ วิ่งมากระโดดยิงด้วยขวาแต่บอลเหินคานออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 42 ฮอลแลนด์ พยายามเร่งเครื่องพังประตูตีเสมอ
จากจังหวะของ เพอร์ เชือร์ส จ่ายบอลมาให้ จัสติน ไคลเวิร์ต หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะได้โอกาสยิงบริเวณเส้นกรอบเขตโทษแต่ยังยิงได้ไม่ดีพอบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง
จบครึ่งแรก ฮอลแลนด์ ตามหลัง ฝรั่งเศส 0-1 รูปเกมทั้งสองทีมยังเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่ตลอด แต่เป็นทาง ฝรั่งเศส ที่มีความเฉียบคมมากกว่าทำให้ชิงขึ้นนำไปได้ก่อน ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 51 ฮอลแลนด์ มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จ
จากจังหวะของ เฟอร์ดี้ คาดิโอกลู พาบอลตัดจากซ้ายเข้ากลางมาก่อนจะยิงไปติดบล็อค โกตาเต้ บอลกระดอนมาเข้าทาง อับดู ฮาร์รุ ได้ซัดนอกกรอบทันทีแต่โดนบอลไม่ดีกลายเป็นส่งบอลไปเข้าทาง มายรอน เบาดู ยิงโล่ง ๆ หน้าปากประตูบอลพุ่งเข้าซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ ฮอลแลนด์ ไล่มา 1-1
นาทีที่ 66 ฝรั่งเศส ชวดได้ประตูแซงขึ้นนำอีกครั้ง
จากจังหวะของ โชนาต็อง อิโกเน่ รับบอลหน้ากรอบก่อนจะพลิกบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ยิงด้วยขวาบอลผ่าน จัสติน ไบจ์โลว์ ไปแล้วแต่ยังไปติด เพอร์ เชือร์ส ที่ตามมาช่วยบล็อค บอลกระดอนมาเข้า อิโกเน่ ตามไปซ้ำมุมแคบแต่บอลก็ยังไปชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 73 “ตราไก่” พับสนามบุก
จากจังหวะของ โชนาต็อง อิโกเน่ จ่ายบอลมาให้ ฮุสเซม อาอูอาร์ ได้โอกาสยิงมุมแคบแต่ จัสติน ไบจ์โลว์ ยังยืนตำแหน่งได้ดีเซฟช่วยทีมไว้ได้อีกครั้ง
ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 จัสติน ไบจ์โลว์ ยังโชว์เซฟสำคัญ
จากจังหวะของ ฮุสเซม อาอูอาร์ ไหลบอลมาให้ โรแม็ง แฟฟวร์ พลิกบอลหนีแต่งบอลจนได้ช่องก่อนจะยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบแต่ จัสติน ไบจ์โลว์ ยังโชว์เซฟสำคัญเอาไว้ได้
เกมทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอ นาทีที่ 90+3 “อัศวินสีส้ม” มาได้ประตูแซงชนะ
จากจังหวะสวนกลับเร็วของ จัสติน ไคลเวิร์ต กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบแล้วปาดมาเสาไกลให้ มายรอน เบาดู วิ่งมายิงบอลผ่านมือ อิลล็อง เมสลีเยร์ เข้าไปไม่เหลือ ฮอลแลนด์ แซงนำ 2-1
จบเกม ฮอลแลนด์ เอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 2-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง ฮอลแลนด์ ที่ทำได้ดีกว่าแต่สร้างโอกาสเข้าทำได้น้อยกว่า ฝรั่งเศส เกมเหมือนจะจบลงด้วยผลเสมอแต่มาได้ลูกทีเด็ดของ จัสติน ไคลเวิร์ต ที่กระชากสวนกลับอย่างรวดเร็ว ทำให้ ฮอลแลนด์ ยู-21 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป พบกับ เยอรมัน ยู-21 รอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้