เชลซี พลาดโดนเซนิตไล่เจ๊านาทีบาปหล่นเป็นรองแชมป์กลุ่ม

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช (นัดสุดท้าย) ระหว่าง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 5-4-1 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3

เกมเริ่มมาได้ 1 นาที เชลซี ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะของ ซาอูล ญีเกซ ทำบอลชิ่งกับ เมสัน เมาน์ท ก่อนจังหวะสุดท้ายจะเป็น ซาอูล ญีเกซ หลุดเข้ามาในเขตโทษยิงเน้น ๆ  แต่ มิคาอิล เคอร์ซาคอฟ นายด่านเจ้าบ้านยังออกมาบล็อกได้ทันเวลา

นาทีที่ 2 เชลซี มาได้ประตูทะยานขึ้นนำอย่างรวดเร็ว

จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปิดบอลลอยเข้ามาในมาถึง อันเดรียส คริสเตนเซ่น โหม่งเช็คมาให้ ติโม แวร์เนอร์ จิ้มซ้ำระยะเผาขน สิงห์บลูส์ เฮเร็ว 1-0

นาทีที่ 26 เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ยังเซฟช่วยทีม

จากจังหวะของ เคลาดินโญ่ จ่ายบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้ากลางมาให้ มัลคอม รับบอลก่อนจะได้ช่องยิงในเขตโทษ แต่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านทีมเยือนออกมาเร็วสกัดบอลทิ้งช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเวลา

นาทีที่ 34 เชลซี พยายามสร้างโอกาสเข้าทำ

จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู เปิดบอลหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งขวาไปให้ เมสัน เมาน์ท สอดขึ้นมาคนเดียวยิงตามน้ำ แต่ มิคาอิล เคอร์ซาคอฟ ยังป้องกันเอาไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 38 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ

จากจังหวะของ ดั๊กลาส ซานโต๊ส เก็บบอลได้แล้วบรรจงเปิดบอลย้อยมาหน้าประตูให้ เคลาดินโญ่ ขึ้นโหม่งบอลหนีตัว เกปา อาร์ริซาบาลาก้า บอลซุกตาข่ายด้านเสาสองทางขวาไปไม่เหลือ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไล่มา 1-1

นาทีที่ 41 เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ขึงเกมรุกจนได้เรื่อง

จากจังหวะของ มัลคอม จ่ายบอลกลางสนามทะลุไปถึง เซอร์ดาร์ อัซมูน หลุดเข้าไปแตะหลบนายทวารทีมเยือนแปเรียดส่งบอลเข้าประตู ไปไม่เหลือ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก พลิกแซง 2-1

จบครึ่งเวลาแรก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ออกนำ เชลซี ไปก่อนที่ 2-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่า แต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่ในจังหวะสุดท้าย ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 52 เกปา อาร์ริซาบาลาก้า โชว์ซุปเปอร์เซฟ

จากจังหวะของ มัลคอม พาบอลเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนจะซัดเน้น ๆ บอลโค้งเกือบเสียบตาข่าย แต่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านสิงห์บลูส์เหินปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 55 เชลซี เร่งเครื่องหาประตูไล่ตีเสมอ

จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู จ่ายบอลส่งไปให้ ซาอูล ญีเกซ แต่งบอลก่อนจะยิงบอลจากทางฝั่งซ้าย บอลยังพุ่งไปตรงตัวนายด่านเจ้าบ้านยืนทุบทิ้งก่อนเพื่อนร่วมทีมเตะทิ้งทันที

นาทีที่ 62 เชลซี ไล่ทำประตูตีเสมอจนได้

จากจังหวะของ ติโม แวร์เนอร์ จ่ายบอลไปให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ไหลคืนมาที่ ติโม แวร์เนอร์ ปาดบอลเร็วต่อไปให้ โรเมลู ลูกากู จิ้มโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย เชลซี ตามเป็น 2-2

นาทีที่ 71 เกปา โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

จากจังหวะของ เคลาดินโญ่ เปิดบอลมากลางเขตโทษให้ เซอร์ดาร์ อัซมูน ได้ขึ้นโหม่งเล่นทางบอลเกือบจะซุกเสาแรก แต่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ยังไวปัดทิ้งออกไปได้อีกหน

นาทีที่ 85 กลายเป็น เชลซี ที่มาได้เปรียบท้ายเกม

จากจังหวะของ คริสเตียน พูลิซิซ ทำชิ่งกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายบอลมาให้ ติโม แวร์เนอร์ แต่งบอลหนึ่งครั้งหลบ วยาเชสลาฟ คาราวาเยฟ ก่อนจะได้ช่องซัดเน้น ๆ บอลซุกก้นตาข่ายไปอย่างแม่นยำ เชลซี พลิกขึ้นนำ 2-3

นาทีที่ 90+4 เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มาไล่เจ๊า

จากจังหวะของ บรูโน่ ซาร์ โหม่งเคลียร์บอลโยนมากลางเขตโทษ บอลกระดอนมาหน้ากรอบเขตโทษ เข้าทาง มาโกเม็ด ออซโดเยฟ ได้วอลเลย์สวนบอลพุ่งตรงกรอบ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า พยายามปัดได้แต่ก็ไม่พ้นประตู เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไล่ตีเสมอ 3-3

จบเกม เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เสมอกับ เชลซี อยู่ที่ 3-3 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่า และยังสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันมากกว่า แต่ก็มาพลาดเสียประตูช่วงท้ายเกม ทำให้จบลงด้วยผลเสมอกันไป ส่งผลให้ เชลซี มี 13 คะแนน อยู่อันดับที่ 2 และทางด้าน เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มี 5 คะแนน อยู่อันดับ 3