การแข่งขันในเกมฟุตบอล ลาลีกา สเปน ระหว่าง เอสปันญ่อล ลงสนามพบกับ เรอัล มาดริด โดยเกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เกมเริ่มมาได้ 12 นาที “ราชันชุดขาว” ทะยานออกนำได้อย่างรวดเร็ว
จากจังหวะประสานงานหน้ากรอบทางฝั่งขวา ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ดีดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษไปให้ วินิซิอุส จูเนียร์ สอดมาแปตามน้ำซุกหน้าต่างเสาไกลเข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ออกนำ 0-1
นาทีที่ 19 เบนฌาแม็ง เลอกงต์ ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ไหลบอลออกซ้ายไปให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้ความเร็วกระชากเข้าเขตโทษแต่จังหวะดีดด้วยขวามุมแคบบอลยังไม่ผ่าน เบนฌาแม็ง เลอกงต์ ผวาปัดทิ้งข้ามคานออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 25 เอสปันญ่อล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ เอดู เอ็กซ์โปซิโต้ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะได้โอกาสตั้งป้อมยิงไกลระยะร่วม 30 หลา บอลยังไปติดเซฟ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ พุ่งปัดทิ้งออกมาได้หวุดหวิด
นาทีที่ 43 เจ้าบ้านตามตีเสมอได้สำเร็จ
จากความสามารถเฉพาะตัวของ โฆเซลู ขยับมารับบอลในเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนจะตวัดบอลผ่านบล็อค เอแดร์ มิลิเตา เข้ามาบอลยังไปติดเซฟ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ปัดไม่พ้นเข้าทาง โฆเซลู ซ้ำจ่อ ๆ บอลกระดอนพื้นตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ เอสปันญ่อล เสมอ 1-1
จบครึ่งเวลา เอสปันญ่อล เสมอกับ เรอัล มาดริด ได้อยู่ที่ 1-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้างในจังหวะเข้าทำสุดท้ายต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 52 เอสปันญ่อล เกือบพลิกแซงขึ้นนำ
จากบอลทางฝั่งซ้ายของ ไบรอัน โอลิบัน ใช้ความเร็วกระชากบอลหนี ลูคัส บาสเกซ แหวกมาสุดเส้นจ่ายบอลเข้าเขตโทษหลุดมาเสาไกลถึง ฆาบี ปูอาโด้ ตั้งเท้าชาร์จแฉลบเปลี่ยนทางข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 57 “ราชันชุดขาว” ออกหมัดบ้าง
จากจังหวะของ ดาวิด อลาบา ขยับเติมเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายเปิดบอลโค้งมาหน้ากรอบเกือบถึง คาริม เบนเซม่า เสียดายบอลแรงกระดอนพื้นหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 59 เจ้าบ้าน พลาดโอกาสทอง
จากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายบอลโค้งชุลมุนในเขตโทษก่อนเป็น โฆเซลู ชิงจังหวะทิ่มด้วยซ้ายหน้ากรอบบอลไปติดแขน ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ยกขึ้นมาเซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ
นาทีที่ 66 เรอัล มาดริด เกือบมาได้ประตูพลิกแซง
จากจังหวะของ โทนี่ โครส เก็บตกหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายกึ่งยิงกึ่งผ่านมาเสาไกลเข้าทาง คาริม เบนเซม่า สะกิดเปลี่ยนทางส่งบอลซุกก้นตาข่าย เสียดายโดนจับล้ำหน้าก่อนยืนยันด้วย วีเออาร์
นาทีที่ 88 “ราชันชุดขาว” มาได้ประตูพลิกแซงจนได้
จากจังหวะของ โรดริโก้ โกเอส เก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายโยกได้ช่องยกข้ามมาเสาไกลให้ คาริม เบนเซม่า สอดมาชาร์จไม่ถึง 5 หลาบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม เรอัล มาดริด พลิกแซง 1-2
นาทีที่ 90+9 เรอัล มาดริด ได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะอันตรายกลางประตูหน้ากรอบของ คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่สังหารปั่นด้วยขวาบอลโค้งอ้อมกำแพงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 1-3
จบเกม เอสปันญ่อล แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ไปที่ 1-3 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ดุดันกว่าทำให้ ราชันชุดขาว เอาชนะไปได้ไม่ยากเก็บสามแต้มไปแบบสบายเท้า