การแข่งขันในเกมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ลงสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เริ่มเกมมาได้ 3 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้โอกาสทักทายก่อน
จากจังหวะของ โรดรี้ เอร์นานเดซ ได้โอกาสยิงไกลนอกกรอบของแต่บอลก็ยังพุ่งเหินคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 5 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูทะยานขึ้นนำจนได้
จากจังหวะของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดบอลเข้ามาในกรอบให้ อิลคาย กุนโดกัน จับบอลลงก่อนวอลเลย์ด้วยขวาส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 11 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ลุ้นประตูที่สอง
จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ รับบอลหลุดเข้าไปในกรอบทางฝั่งขวาก่อนได้โอกาสยิงมุมแคบแต่บอลก็ยังไปติดขา นิค โป๊ป เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 17 นิวคาสเซิ่ล ทิ้งโอกาสทองที่จะไล่ตีเสมอ
จากจังหวะของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง จ่ายบอลหักมาให้ มิเกล อัลมิรอน ได้โอกาสยิงโล่ง ๆ แต่บอลกลับเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 20 นิค โป๊ป เซฟสำคัญช่วยทีม
จากจังหวะของ สเวน บ็อตมัน ไปฟาวล์ใส่ ฮาลันด์ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะซัดฟรีคิกข้ามกำแพงทางเสาไกล ก่อนจะโดน นิค โป๊ป พุ่งเซฟออกไปอีกครั้ง
นาทีที่ 28 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกันลั่นสนาม
จากความยอดเยี่ยมของ แซงต์-มักซิแม็ง ที่กระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดบอลเข้ามากลางประตูให้ โจ วิลล็อค พุ่งไปถึงบอลเลยไปโดน มิเกล อัลมิรอน เปลี่ยนทางบอลเข้าไป ผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ ยืนยันแล้วให้ประตู นิวคาสเซิ่ล ไล่ตาม 1-1
นาทีที่ 38 นิวคาสเซิ่ล ทำช็อก เซนต์ เจมส์ พาร์ค แทบแตก
จากจังหวะของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง เลี้ยงบอลตะลุยฝ่าแนวรับซิตี้เข้ามาก่อนจ่ายให้ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเข้าไปแตะบอลหลบก่อนจิ้มผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าไปไม่เหลือ นิวคาสเซิ่ล พลิกแซง 2-1
จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ออกนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปที่ 2-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ต้องมาติดตามลุ้นต่อในช่วง 45 นาทีหลัง
นาทีที่ 52 เรือใบสีฟ้า ชวดได้ประตูตีเสมอ
จากจังหวะของ ดิอาส เติมเกมขึ้นมาสูงก่อนจ่ายให้ ฮาลันด์ เลี้ยงตัดหน้ากรอบกระโหลกก่อนยิงไปติดมือ นิค โป๊ป บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 54 คีแรน ทริปเปียร์ กดประตูสุดสวยให้ “สาลิกาดง”
จากจังหวะลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ คีแรน ทริปเปียร์ วิ่งมาปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ชนิดที่ เอแดร์ซอน หมดสิทธิ์จะป้องกัน นิวคาสเซิ่ล นำห่าง 3-1
นาทีที่ 60 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ปล่อยให้นำนานมาพังประตูไล่ตาม
จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม กานเซโล่ เปิดบอลมาเสาไกลถึง โรดรี้ ดีดบอลมาให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ หวดเต็มแรงบอลพุ่งเสยตาข่ายเข้าไปไม่พลาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตาม 3-2
นาทีที่ 64 แฟนบอล แมนซิตี้ ได้เฮสนั่น
จากความสุดยอดของ เดอ บรอยน์ จ่ายบอลสุดเหนือชั้นไปให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนยิงแบบเยือกเย็นผ่านตัว นิค โป๊ป เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตีเสมอ 3-3
นาทีที่ 73 วีเออาร์ ช่วยนิวคาสเซิ่ลเอาไว้ได้
จากจังหวะของ คีแรน ทริปเปียร์ ไปเข้าเสียบใส่ เดอ บรอยน์ จากด้านหลังเพื่อตัดเกม ผู้ตัดสินวิ่งมาชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที แต่หลังวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์เช็ก วีเออาร์ ข้างสนามแล้วมองว่าเป็นการสกัดไม่รุนแรงทำให้กลับคำตัดสินเปลี่ยนจากใบแดงเป็นแค่ใบเหลือง
นาทีที่ 78 ซิตี้ เกือบพลิกแซงได้
จากจังหวะของ ฮาลันด์ พาบอลขึ้นมาก่อนจะได้โอกาสยิงด้วยซ้ายในกรอบแต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกม นิวคาสเซิ่ล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-3 เปอร์เซ็นต๋การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำเกมบุกกดดันได้ดีกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้างทำใหัจบลงด้วยผลเสมอกันไป แบ่งกันไปคนละหนึ่งคะแนน