การแข่งขันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-1-2
นาทีที่ 7 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น ไหลขึ้นหน้ามาให้ โรดรี เอร์นานเดซ พาบอลแหวกเข้าเขตโทษแตะบอลยาว อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ ออกมาจะพยายามตัดบอลแต่กลายเป็นบอลมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ยิงสวนหน้ากรอบ บอลพุ่งผ่าน สจ๊วร์ต ดัลลัส ที่พยายามคุมเส้นแต่สกัดไม่ดีปลิ้นเข้าประตูไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 13 แมนฯ ซิตี้ มาได้เม็ดที่สอง
จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ เก็บบอลได้ทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลเข้าไปหน้าปากประตูและเป็น แจ็ค กรีลิช ได้ขึ้นโหม่งเต็ม ๆ บอลพุ่งซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 2-0
นาทีที่ 32 เควิน เดอ บรอยน์ กดเพิ่มอีกตุงให้ทีม
จากบอลประสานงานสุดสวยของ โรดรี เอร์นานเดซ จ่ายไซค์ก้อยเข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าเขตโทษมายิงลอดแขน อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ เบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 3-0
นาทีที่ 44 เกมรุกยังเป็นของเจ้าบ้าน
จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าเขตโทษมาก่อนจะซัดเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไม่ผ่าน อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ ปัดออกมาก่อนจะมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไกลนอกกรอบบอลส่ายเหินข้ามคานหลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

หมดครึ่งเวลาแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 3-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด กดดันจนสามารถกุมความได้เปรียบไปถึงสามลูก ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 49 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูที่ 4 ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ เก็บบอลได้ทางฝั่งขวาพาบอลลุยเข้าเขตโทษก่อนจะโยกเข้าซ้ายยิงไปแฉลบขา จูเนียร์ ฟีร์โป้ บอลเปลี่ยนทางผ่านหน้า อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ พุ่งเข้าประตูไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำโด่ง 4-0
นาทีที่ 53 เจ้าบ้านยังไม่แผ่ว
จากจังหวะบอลขึ้นทางฝั่งขวาของ ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลข้ามแนวรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ลึกมาเสาไกลให้กับ อิลคาย กุนโดกัน สอดมาจ่ายด้วยขวาผ่านหน้าประตูถากเสาไกลออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 55 “ยูงทอง” เกือบได้ประตูตีไข่แตก
จากความผิดพลาดของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ โหม่งสกัดไม่ดีบอลย้อนมาหน้าเขตโทษเข้าทาง สจ๊วร์ต ดัลลัส วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเช็ดเสาเหลี่ยมนอกออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาทีที่ 60 เจ้าบ้านเกือบมาได้เพิ่มอีกตุง
จากจังหวะของ แจ็ค กรีลิช แย่งบอลมาได้ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษไปให้ ริยาด มาห์เรซ ปาดย้อนเข้ากรอบ มาถึง ฟิล โฟเด้น ชาร์จจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเช็ค วีเออาร์ ก่อนเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 61 เควิน เดอ บรอยน์ ซัดประตูสุดสวย
จากจังหวะของ อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ ออกบอลไม่ดีโดนดัก ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลย้อนเข้าในให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมยิงไกลด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งเสยเพดานตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสวย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 5-0
นาทีที่ 74 “เรือใบสีฟ้า” เดินหน้าพังประตูต่อเนื่อง
จากจังหวะบอลวางยาวเข้ามาในกรอบให้ อายเมริค ลาปอร์กต์ ได้ขึ้นโหม่งบอลยังไปติดเซฟ อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ ปัดมาเข้าทาง จอห์น สโตนส์ ยิงซ้ำส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 6-0

นาทีที่ 78 แมนซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่อง
จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ ฟิล โฟเด้น เปิดบอลโค้งมาหน้ากรอบให้กับ นาธาน อาเก้ ขึ้นเอาชนะ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ โหม่งส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนีห่างเป็น 7-0
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปได้ถึง 7-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน และยังสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า ทำให้เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 41 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน ลีดส์ ยูไนเต็ด มี 16 คะแนน อยู่อันดับที่ 16