แมนยูฯ แพ้ เปแอสเช คาบ้าน 1-3 ลุ้นเข้ารอบ ชปล. นัดสุดท้าย

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คนช่วง 20 นาทีสุดท้าย เปิดบ้านแพ้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-3 ต้องไปลุ้นเข้ารอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในนัดสุดท้าย

คู่ที่น่าสนใจ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด จากอังกฤษ รับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 6 นาที เปแอสเช ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป ยิงแฉลบ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ บอลทะลักเข้าเขตโทษฝั่งขวามาเข้าทาง เนย์มาร์ ซัดเข้าไปตุงตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 11 เปแอสเช เกือบบวกสกอร์เพิ่ม เมื่อ เฟร็ด สกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทาง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ ร้อนถึง ดาบิด เดเคอา ต้องพุ่งปัดออกไป นาทีที่ 16 โอกาสของแมนยูฯ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ แต่เบาเกินไป เคย์เลอร์ นาบาส รับสบาย และถัดมานาทีเดียว เปแอสเช ได้ลุ้นจากการตีลังกายิงของ เนย์มาร์ แต่ ดาบิด เดเคอา พุ่งไปรับไว้ได้ นาทีที่ 26 แมนยูฯ ได้ลุกเตะมุมทางฝั่งขวา บรูโน เฟอร์นันเดส เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ขึ้นโหม่ง แต่ เคย์เลอร์ นายาส ยังเซฟไว้ได้ ถึงนาทีที่ 32 แมนยูฯ ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส สะกิดบอลมาให้ อองโตนี มาร์เชียล พาบอลมาหน้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา เคย์เลอร์ นาบาส ปัดออกมาเข้าทาง อารอน วาน-บิสซากา ได้บอลทางขวาก่อนจ่ายหักเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงเน้นๆ บอลแฉลบผู้เล่นเปแอสเชเข้าประตูไป และในนาทีที่ 34 เปแอสเชได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป ปั่นด้วยขวาในเขตโทษ บอลแฉลบ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ย้อยหลุดเสาสองออกไป

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อยู่ 1-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 แมนยูฯ น่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำชิ่งกับ เอดินสัน คาวานี จนหลุดมาในเขตโทษฝั่งขวาก่อนปาดเข้ากลางให้ อองโตนี มาร์เชียล ยิงโล่งๆ ข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ

จากนั้น นาทีที่ 57 แมนยูฯ มาอีกแล้ว อองโตนี มาร์เชียล จ่ายบอลทะลุขึ้นมาทางขวาให้ เอดินสัน คาวานี ชิพบอลข้าม เคย์เลอร์ นาบาส ไปชนเสา บอลเด้งมาเข้าทาง บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายเข้ากลางให้ อองโตนี มาร์เชียล ซัดเต็มข้อ ก็ยังติดบล็อกกองหลังอย่างน่าเสียดาย ถัดมา 7 นาที เปแอสเชเกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ เนย์มาร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี กระดกบอลมาเสาสองให้ มาร์กินญอส ขึ้นโหม่ง บอลข้ามคานไปนิดเดียว นาทีที่ 68 เปแอสเช เกือบได้อีกแล้ว เนย์มาร์ ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มิตเชล บัคเกอร์ แปด้วยขวาเน้นๆ แต่ ดาบิด เดเคอา ทิ้งตัวปัดออกไปได้ ถึงนาทีที่ 69 เปแอสเช ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 สมใจ จากจังหวะที่ อันเดร์ เอร์เรรา ยิงจากนอกกรอบมาเข้าทาง อับดู ดิยัลโล จ่ายไปเสาสองให้ มาร์กินญอส จิ้มบอลลอดขา ดาบิด เดเคอา เข้าไปตุงตาข่าย นาทีที่ 70 แมนยูฯ สถานการณ์แย่ลงไปอีก เมื่อ เฟร็ด ที่มีใบเหลืองติดตัวก่อนหน้านี้ ไปทำฟาวล์ใส่ อันเดร์ เอร์เรรา ทำให้โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป นาทีที่ 80 แมนยูฯ เกือบตีเสมอจากจังหวะที่ แฮร์รี แม็คไกวร์ โหม่งตั้งให้ พอล ป็อกบา วอลเลย์ด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว นาทีที่ 84 แมนยูฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ บรูโน เฟอร์นันเดส ได้โฉบมาโหม่งในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่าน เคย์เลอร์ นาบาส นาทีที่ 88 เปแอสเช เกือบได้ประตูนำห่าง จากจังหวะโต้กลับเร็วที่ คีเลียน เอ็มบัปเป พาบอลลุยเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+1 เปแอสเช นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป จ่ายบอลให้ ราฟินญา หลุดไปแตะหลบกองหลังแมนยูฯ แล้วจ่ายเข้ากลางให้ เนย์มาร์ ยิงโล่งๆ เข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-3 มี 9 คะแนนเท่าเดิม รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม โดยมีแต้มเท่ากับ เปแอสเช และ แอร์เบ ไลป์ซิก แต่ประตูได้เสียของแมนยูฯ ดีกว่า โดยทั้ง 3 ทีม ต้องไปลุ้นเข้ารอบ 16 ทีม กันในนัดสุดท้าย

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดาบิด เดเคอา (GK), วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส, อารอน วาน-บิสซากา, เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, บรูโน เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี มาร์เชียล และ เอดินสัน คาวานี

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง: เคย์เลอร์ นาบาส (GK), อเลสซานโดร ฟลอเรนซี, มาร์กินญอส, อับดู ดิยัลโล, เพรสเนล คิมเพมเบ, มาร์โก แวร์รัตติ, ดานิโล เปเรรา, เลอันโดร ปาเรเดส, เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบัปเป และ มอยเซ คีน