การแข่งขันในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 ระหว่าง เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ พลีมัธ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-2-1 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-5-2
นาทีที่ 5 เชลซี เดินหน้าทักทายก่อนเลย
จากจังหวะของ ฮาคิม ซิเย็ค พาบอลลากตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายมาเสาแรกแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ ไมเคิ่ล คูเปอร์ ยังปิดเสาเอาไว้ได้ดี
นาทีที่ 8 พลีมัธ บุกมาทำช็อกเจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำก่อน
จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของ คอเนอร์ แกรนท์ เปิดบอลเข้าเขตโทษไปให้ แม็คออเลย์ จิลเลสฟีย์ ได้ขึ้นโหม่งเปลี่ยนทางส่งบอลตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ พลีมัธ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 10 เชลซี โต้กลับมาทันควัน
จากจังหวะของ มัตเตโอ โควาซิช ได้โอกาสหลุดขึ้นมายิงเน้น ๆ ในเขตโทษบอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 28 เชลซี พยายามเร่งเครื่องหาประตูตีเสมอ
จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น จ่ายบอลมาให้ ฮาคิม ซีเย็ค แต่งบอลหาช่องยิงนอกกรอบบอลพุ่งไปตรงตัว ไมเคิ่ล คูเปอร์ รับเอาไว้ได้สบาย
นาทีที่ 30 เชลซี พลาดโอกาสสำคัญ
จากจังหวะของ ฮาคิม ซีเย็ค ครองบอลอยู่ทางฝั่งขวาก่อนจะหยอดเข้ามาให้ ฮัดสัน โอดอย ได้ขึ้นโหม่งเน้น ๆ แต่บอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมาแบบได้เสียว
นาทีที่ 34 เชลซี พยายามเจาะทุกวิถีทาง
จากจังหวะของ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า พาบอลลุยขึ้นมาเองก่อนจะตัดสินใจยิงไกลนอกกรอบด้วยขวา แต่ ไมเคิ่ล คูเปอร์ ยังพุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 41 ความพยายามของ เชลซี ก็มาสัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอ 1-1
จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น รับบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะจ่ายบอลเรียดไปที่หน้าปากประตูให้ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ไขว้ยิงเข้าไปแบบเหนือชั้น เชลซี ไล่มา 1-1
จบครึ่งแรก เชลซี ยังเสมอกับ พลีมัธ อยู่ที่ 1-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้ายอยู่ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที 58 เชลซี ขึงเกมบุกเอาไว้ต่อเนื่อง
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย โรเมลู ลูกากู ได้ขึ้นโหม่งบอลมาเข้าทางของ อัซปิลิกวยต้า ตอกส้นจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไปไม่เหลือ แต่ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
นาทีที่ 68 พลีมัธ ได้โอกาสลุยขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ จอร์แดน การ์ริค ได้โอกาสเปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้ามาให้ ปานูต์เช่ กามาร่า ได้ขึ้นโหม่ง แต่บอลก็ยังไปตรงตัว เกปา อาริซาบาลาก้า รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาทีที่ 73 พลีมัธ เกือบพลิกนำอีกหน
จากจังหวะบอลวางขึ้นหน้ามาให้ ฮาร์ดี่้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนจะได้ยิงโล่ง ๆ แต่ เกปา อัซปิลิกวยต้า อ่านเกมวิ่งออกมาปิดมุมได้อย่างเร็วใช้เท้าเซฟไว้ได้หวุดหวิด
นาทีที่ 75 ไมเคิ่ล คูเปอร์ โชว์ซุปเปอร์เซฟ
จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู ไหลบอลย้อนคืนตั้งมาให้ เมสัน เมาท์น วิ่งเข้ามากดเน้น ๆ ในเขตโทษ แต่ไมเคิ่ล คูเปอร์ นายด่านทีมเยือนบินพุ่งปัดออกหลังไปได้เหลือเชื่อ
จบเกม 90 นาที เชลซี ยังเสมอกับ พลีมัธ อยู่ที่ 1-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเชลซีที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนแต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ต้องไปลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
นาทีที่ 93 เชลซี เร่งเครื่องหวังปิดบัญชี
จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น ลากพาบอลขึ้นมายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไปแบบได้เสียว
จนกระทั่งนาทีที่ 107 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำจนได้หลังจากกดอยู่นาน
จากจังหวะของ ไค ฮาแวร์ทซ์ ทำชิ่งกับ ติโม แวร์เนอร์ หลุดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะปาดเรียดเข้ามาที่หน้าปากประตูให้ มาร์กอส อลอนโซ่ สอดมายิงโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าไปไม่พลาด เชลซี แซงนำเป็น 2-1
นาทีที่ 116 พลีมัธ มาได้จุดโทษท้ายเกม
จากจังหวะของ มาล็อง ซาร์ จ่ายบอลเสียหน้าเขตโทษ ก่อนจะไปเจตนาดึงแข้ง พลีมัธ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น ไรอัน ฮาร์ดี้ รับหน้าที่สังหารบอลไปติดเซฟของ เกปา อาริซาบาลาก้า พุ่งถูกทางตะครุบไว้ได้
จบเกม เชลซี เอาชนะ พลีมัธ ไปได้ 2-1 เกมส่วนใหญ่เป็นของเจ้าบ้านแต่จังหวะจบสกอร์ยังใช้กันเปลืองแต่ก็ยังมีดีพอที่จะเอาชนะไปได้ ส่งผลให้ เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ได้สำเร็จ
สนับสนุนบทความโดย ufabet