การแข่งขันศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน ระหว่าง เรอัล มาดริด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บาเลนเซีย เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2
เกมเริ่มมาได้ 6 นาที ราชันชุดขาว เกือบพังประตูได้ก่อน
จากจังหวะลูกฟรีคิกของ โทนี่ โครส เปิดบอลทางฝั่งขวาบอลโค้งมาถึง เอแดร์ มิลิเตา ได้โอกาสโหม่งเต็ม ๆ บอลยังไปตรง เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ปัดทิ้งออกมาได้ทันเวลา
นาทีที่ 12 บาเลนเซียได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะบอลวางเข้ามาลุ้นในเขตโทษและเป็น กอนซาโล่ เกเดส สอดขึ้นมาโหม่งหน้าปากประตู แต่บอลเบาไร้น้ำหนัก ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ตั้งซองรับเอาไว้ได้สบายมือ
นาทีที่ 16 เกมรุกยังเป็นของ บาเลนเซีย
จากจังหวะของ กอนซาโล่ เกเดส พาบอลลุยขึ้นมาเองก่อนจะตั้งป้อมยิงไกลระยะร่วม 30 หลา แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 30 เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เซฟสำคัญช่วยทีม
จากจังหวะของ ลูก้า โมดริช เปิดบอลขึ้นหน้ามาให้ มาร์โก อาเซนซิโอ เอาบอลลงก่อนจะยิงไปโดน เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ใช้ขาสกัดเคลียร์ออกหลังไปได้แบบเหลือเชื่อ
นาทีที่ 41 ราชันชุดขาว พยายามเร่งเครื่อง
จากจังหวะของ วินิซิอุส จูเนียร์ ขวางบอลเรียดไปให้ ลูก้า โมดริช โยกหาจังหวะยิงในเขตโทษ บอลโค้งไปชนคานเต็ม ๆ พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 43 เรอัล มาดริด เอาจนได้
จากจังหวะของ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ กระชากบอลลุยเข้าเขตโทษ ก่อนโดน โอมาร์ อันเดเรเต้ ขัดขาล้มลง ผู้ตัดสินชี้จุดโทษทันที ก่อนจะเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่สังหารส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ บาเลนเซีย ไปได้ก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่า แต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้าย กว่าจะมาได้ประตูออกนำก็เล่นเอาเหนื่อย ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อไปในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 52 เรอัล มาดริด ซัดเม็ดที่สองอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ วินิซิอุส จูเนียร์ จ่ายบอลให้ คาริม เบนเซม่า จ่ายคืน ก่อนหัวหอกแซมบ้าแตะบอลยาวทว่า มูคตาร์ เดียกาบี้ ดักพลาดบอลทะลักมาหาหัวหอกราชันซัดง่ายดาย เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0
นาทีที่ 61 สกอร์เริ่มไหล
จากจังหวะของ คาริม เบนเซม่า จ่ายบอลออกขวามาให้ มาร์โก อาเซนซิโอ วิ่งมาลากบอลเข้าไปยิงแต่โดน เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ปัดได้ทันบอลลอยตั้งมาเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ โหม่งโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำห่าง 3-0
นาทีที่ 63 ติโบลต์ กูร์กตัวส์ โชว์ซุปเปอร์เซฟ
จากจังหวะของ ดาเนี่ยล วาส พาบอลขึ้นมายิงไกลนอกกรอบตรงวงกลม บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ยังบินเซฟเอาไว้ได้เต็มมือ
นาทีที่ 75 บาเลนเซีย ทวงประตูคืนได้หนึ่งลูก
จากจังหวะของ โฆเซ่ กาย่า เปิดบอลฝั่งซ้าย แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ตัดสินใจไปดึงเขน มาร์กอส อันเดร ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนทันที และเป็น กอนซาโล่ เกเดส รับหน้าที่สังหารยิงครั้งแรกไปติดเซฟ บอลกระดอนมาเข้าทางโหม่งส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ บาเลนเซีย ไล่มา 3-1
นาทีที่ 88 เจ้าบ้านมาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ปาดบอลเลยถึง คาริม เบนเซม่า จับบอลหมุนตัวยิงตรงจุดโทษ บอลเลี้ยวเสียบตาข่ายด้านขวาเข้าไปอย่างเฉียบคม เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 4-1
จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านไล่อัด บาเลนเซีย ไป 4-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะจบสกอร์ได้ดุดันกว่าทำให้เกมนี้ ราชันชุดขาว เปิดบ้านเอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ เรอัล มาดริด มี 49 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน บาเลนเซีย มี 28 คะแนน อยู่อันดับที่ 10