การแข่งขันในศึกฟุตบอลเฟร้นช์ คัพ รอบ 16 ทีม ระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ นีซ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2
เกมเริ่มมาได้ 8 นาที นีซ ได้ทักทายก่อนเลย
จากจังหวะของ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก จ่ายบอลไปให้ จัสติน ไคลเวิร์ต แต่งบอลหาช่องยิงในเขตโทษทางฝั่งซ้ายบอลยังไม่ห่างมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 22 เปแอสเซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ ลิโอเนล เมสซี่ รับบอลในเขตโทษก่อนจะจ่ายบอลย้อนไปให้ อันแดร์ เอร์เรร่า แปะบอลมาให้ มาร์โก แวร์รัตติ สอดมากดเต็มข้อบอลหลุดเสาซ้ายไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 24 จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา ของ อามีน กูยริ วิ่งมากดเต็มข้อบอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ยังไปตรงตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 44 เมสซี่ น่าจะทำได้ดีกว่านี้
จากจังหวะของ มาร์โก แวร์รัตติ สอดมารับบอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยกตัดเข้าในจ่ายทะลุช่องไปให้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บรรจงยิงหน้าประตูแต่บอลก็ยังไปตรงตัว มาร์ชิน บูลก้า รับเอาไว้ได้สบาย
จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังเสมอกับ นีซ อยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้ายต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 47 นีซ เกือบมาได้ประตูตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
จากจังหวะของ จัสติน ไคลเวิร์ต หลุดพาบอลเลื้อยเข้าหากรอบเขตโทษก่อนจะยิงเน้น ๆ ในเขตโทษ แต่นายด่านเจ้าบ้านยังรับเอาไว้ได้สบาย
นาทีที่ 68 เกมสวนกลับ นีซ ยังทำได้ดี
จากจังหวะบอลสวนกลับขึ้นมาของ จอร์แดน โลตอมบะ ไหลบอลไปให้ อองดี เดอลอร์ ได้โอกาสยิงไกลนอกกรอบบอลพุ่งกระดอนพื้นแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ล้มตัวรับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 70 โอกาสจะแจ้งสุด ๆ ของ เปแอสเซ
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ
ของ มาร์โก แวร์รัตติ เปิดบอลเข้ากลางมาก่อนจะเป็น เพรสแนล คิมเพมเบ้ สอดเข้ามายิงแต่บอลก็ยังไม่ผ่านตัวคุมเส้นของ นีซ ก่อนที่แนวรับจะช่วยกันเตะบอลทิ้งกันออกปได้ก่อน
นาทีที่ 90 เปแอสเซ พับสนามบุกกดดัน
จากจังหวะของ ยูลีอาน ดรัคส์เลอร์ รับบอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะไหลบอลกลับเข้ากลางมาให้ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงเต็มข้อแต่บอลก็ยังไปติดบล็อคเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกม 90 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่า และสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่าแต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ทำให้ต้องดวลถึงจุดโทษก่อนกันจะเป็น นีซ ที่แม่นเป้ามากกว่าเอาชนะ เปแอสเซ ไปได้ 5-6 ในที่สุดส่งผลให้ นีซ ผ่านทะลุเข้าสู่รอบต่อไป