พรีเมียร์ลีก เวลา : 22.30 น. ลิเวอร์พูล (8) -vs- อาร์เซน่อล (1) ราคาบอล : อาร์เซน่อล ต่อ 0.25(-5)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล (8) -vs- อาร์เซน่อล (1)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 22.30 น.
ราคาบอล : อาร์เซน่อล ต่อ 0.25(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

09/10/22 อาร์เซน่อล ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2
17/03/22 อาร์เซน่อล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
21/01/22 อาร์เซน่อล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 / ลีก คัพ
14/01/22 ลิเวอร์พูล เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 / ลีก คัพ
21/11/21 ลิเวอร์พูล ชนะ อาร์เซน่อล 4-0
04/04/21 อาร์เซน่อล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
02/10/20 ลิเวอร์พูล เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 / ลีก คัพ
29/09/20 ลิเวอร์พูล ชนะ อาร์เซน่อล 3-1
29/08/20 อาร์เซน่อล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 / (กลาง) คอมมูนิตี้ ชิลด์
16/07/20 อาร์เซน่อล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล
05/04/23 เสมอ เชลซี 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.25 … ได้ครึ่ง
01/04/23 แพ้ แมนฯซิตี้ 1-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.75 … เสีย
16/03/23 แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 0.25 … เสีย
11/03/23 แพ้ บอร์นมัธ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … เสีย
06/03/23 ชนะ แมนฯยู 7-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 13 ชนะ 9 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 34 เสีย 9

อาร์เซน่อล
01/04/23 ชนะ ลีดส์ 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 … ได้
19/03/23 ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … ได้
17/03/23 เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-1 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.5 … เสีย (แพ้จุดโทษ 3-5)
12/03/23 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … ได้
10/03/23 เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-2 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 0.5 … เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 14 ชนะ 11 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 28 เสีย 9

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 11 เสีย 0
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 1 เสีย 5

อาร์เซน่อล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 11 เสีย 4
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 2

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกเจ๊า เชลซี 0-0 ในลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก แคลวิน แรมเซย์, สเตฟาน บายเซติช และ นาบี เกอิต้า สามแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งอยู่ในระหว่างพักรักษาตัวยกแพ็ค คาดว่า คล็อปปป์ เตรียมวางหมากในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป กับ โชต้า ผนึกกำลังกันล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปักหลักคุมเชิงจากแดนกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แคลวิน แรมเซย์ (-), สเตฟาน บายเซติช (11 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – นาบี เกอิต้า (5 นัด)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป, โชต้า

อาร์เซน่อล

          อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ ลีดส์ 4-1 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, วิลเลี่ยม ซาลิบา, เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเตียห์ และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถใช้งานได้แน่นอน คาดว่า อาร์เตต้า เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เฮซุส กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายและใช้ มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์ กับ กรานิต ชาก้า ผนึกกำลังกันคุมจังหวะจากแดนกลางตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – วิลเลี่ยม ซาลิบา (27 นัด/2 ประตู), ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (21 นัด)
กองกลาง – โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (5 นัด)
กองหน้า – เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเตียห์ (23 นัด/4 ประตู)

อาร์เซน่อล (4-3-3) : อารอน แรมสเดล – เบ็น ไวท์, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลแญส, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ – มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า – บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เฮซุส, เลอันโดร ทรอสซาร์

ทรรศนะ

          แม้มองในมุมชนะของเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล อาจจะน้อยไปสักหน่อย แต่ถ้าวัดกันในมุมเสมอแชร์แต้มใน แอนฟิลด์ ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะสถิติเกมเหย้า 6 หนท้ายในลีกยังไม่แพ้ใครและกำชัยไปถึง 5 ครั้ง (เสมอ 1) และผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำรวมทั้งสิ้นกว่า 16 ประตูเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอเกมรับก็เหมือนจะเหนียวแน่นไม่ธรรมดาในยามบู๊บ้านตัวเองเช่นกัน จริงอยู่ที่ทีมเยือน อาร์เซน่อล ค่อนข้างฟอร์มโหดหาตัวจับยาก และเดินหน้าล่าตาข่ายราวกับเครื่องจักรสังหาร อย่างไรก็ดีหากเปิดหน้าแลกมากเกินไป อาจเจอเกมสวนกลับของคู่แข่งเล่นงานได้เหมือนกัน เชื่อว่าระดับบิ๊กทีมปะทะกันน่าจะรัดกุมกันทั้งสองฝ่ายและกินกันยาก เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมของทั้งคู่ แนะนำอยู่รองลุ้นสองมุม ฟันธง! เชียร์ “หงส์แดง”

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ